ซีไอเอ็มบี ไทย กำไรไตรมาสแรกทรุด
• กำไรสุทธิ 626.1 ล้านบาท ลดลง 24.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
• เงินให้สินเชื่อของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 24,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4%
• เงินฝากอยู่ที่ 31,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1%
• เงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 20.8% เงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.5%
พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2567 มีกำไรสุทธิ 626.1ล้านบาท ลดลงจำนวน 204 ล้านบาท หรือ 24.6% เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2566 กำไรก่อนภาษีเงิน 790.2 ล้านบาท ลดลงจำนวน 247.9 ล้านบาทหรือ 23.9%
โดยมีสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้จากการดำเนินงาน 8.4% และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 11.8% สุทธิกับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นซึ่งลดลง 36.9% เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2567 และ 2566 รายได้จากการดำเนินงานปี 2567 มี 3,506.1 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2566 จำนวน 322.7 ล้านบาท หรือ 8.4%
การลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 28.8 ล้านบาท หรือ 1.2 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของเงินรับฝาก รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง 26.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 8
มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการ รายได้อื่นลดลง 267.7 ล้านบาท หรือ 23.1%
ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของกำไรสุทธิจากเงินลงทุนและกำไรสุทธิจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ
สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8,400 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 3.3% สาเหตุเกิดจากสินเชื่อรายย่อย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารมีนโยบายการจัดการความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อที่รัดกุม มาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพรวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 มี.ค.2567 อยู่ที่ 121.3% ลดลงจากสิ้นปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 124.2%
ขณะที่ ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 9,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย 1,500 ล้านบาท เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 31 มี.ค.2567 มี 59,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 20.8% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 เท่ากับ 15.5%
