MTC ออกหุ้นกู้2-4ปี ดอกเบี้ยสูงสุด5%
MTC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 2-4 ปี ดอกเบี้ย [4.25 – 5.00]% ต่อปี พร้อมผนึกกำลังกับสถาบันการเงินระดับโลกจากเยอรมันและญี่ปุ่น เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก พร้อมพัฒนาสังคม ดันธุรกิจเติบโตตามเป้าอย่างยั่งยืน
บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (“MTC”) จับมือ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่สถาบันการเงินระดับโลกจากประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่น ทั้ง DEG และ SMBC ร่วมสร้างโอกาสทางการเงินให้กับสังคมไทย ภายใต้กรอบวงเงิน 5,300 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความอย่างยั่งยืนในทุกมิติ พร้อมทั้งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป อายุระหว่าง 2 – 4 ปี หวังกระจายแหล่งเงินทุนให้ทั่วถึง สนับสนุนระบบเศรฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 19-20 และ 24 ตุลาคม 2566 นี้ ทริสจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เผยนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและลุยปล่อยสินเชื่อ ดันพอร์ตเติบโตตามเป้าที่ 20%
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามรับการสนับสนุนทางการเงิน จากบริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (DEG – Deutsche Investitions- und Entwicklungsgesellschaft mbH) และ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ภายใต้กรอบวงเงิน 5,300 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ารายย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป หรือที่เรียกว่า Public Offering ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 10 วัน อัตราดอกเบี้ย [4.25 – 4.40%] ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 9 วัน อัตราดอกเบี้ย [4.75% – 4.90%] ต่อปี และ
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 8 วัน อัตราดอกเบี้ย [4.85% – 5.00%] ต่อปี
โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 19-20 และ 24 ตุลาคม 2566 นี้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการของบริษัทฯ ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้
“การสนับสนุนทางการเงินจาก DEG และ SMBC จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสานต่อการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พัฒนาความเป็นอยู่ที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมให้เป็นสุข รวมถึงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ตามเป้าหมายของสหประชาชาติ (SDGs) ได้อย่างต่อเนื่อง โดยวงเงินทั้งหมดได้ดำเนินการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม จนได้รับการรับรองผลการประเมิน ESG MSCI Index ในปี 2566 ที่ระดับ AA ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Customer Finance)” นายปริทัศน์ กล่าว
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ทั้งพักชำระหนี้และเงินดิจิทัล น่าจะช่วยให้ลูกค้าของบริษัทฯ มีสภาพคล่องมากขึ้น โดยนโยบายพักชำระหนี้จะส่งผลดีต่อกลุ่มเปราะบางจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ เมื่อได้รับการพักชำระหนี้ก็มีโอกาสจะนำเงินที่ไม่ต้องชำระหนี้มาสร้างผลผลิตและรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนเงินดิจิทัลก็จะทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ มีเงินเหลือและสามารถนำมาชำระหนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th