CIMB THAI และ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ลงนาม (MOU)
ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมปั้นเด็กสายดิจิทัล เข้าวงการธนาคารต่อเนื่อง
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กนกไพ วงศ์สถิตย์พร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ไพศาล ธรรมโพธิทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เทคโนโลยีและวิทยาการข้อมูล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ผศ.ดร.อซีส นันทอมรพงศ์ คณบดี ดร.ณัฐพงศ์ ทองเทพ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยน
ความรู้ของบุคลากรและนักศึกษาให้มีคุณภาพ และเกิดความชำนาญในทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) พร้อมเป็นทรัพยาบุคคลที่มีคุณภาพด้านดิจิทัล เข้าสู่วงการธนาคาร
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง เพราะคนคือเเอสเซตที่สำคัญที่สุดของเรา สำหรับความร่วมมือกับวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตครั้งนี้ ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชน ด้วยโปรแกรมการฝึกงานและสหกิจ ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนรู้การทำงานจริงจากผู้มีประสบการณ์ ฝึกทักษะการแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ก่อนเข้าสู่การทำงานในอนาคต”
นายอซีส นันทอมรพงศ์ คณบดี วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่เรามีบันทึกข้อตกลงร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่นักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะ ความรู้ด้านต่าง ๆ จากห้องเรียนและนำไปใช้กับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Mobile Application ซึ่งเป็นเครื่องมือการทำธุกรรมการเงินที่สำคัญในยุคปัจจุบัน”
“กลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คือ To Be A Digital-led Bank with ASEAN Reach ซึ่งทางธนาคารได้ลงทุนด้านดิจิทัลเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ธนาคารยังคงให้ความสำคัญในเรื่อง การกำหนดกลยุทธ์ด้านคน การสร้างความผูกพันในองค์กร และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน ซึ่งเรายังมุ่งมั่นที่จะทำให้ CIMB Thai เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีศักยภาพที่ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายของการก้าวเป็นองค์กรชั้นนำในอาเซียนได้” พอล วอง ชี คิน กล่าวสรุป