ชโย กรุ๊ป จับมือ 2 พันธมิตร พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล และ เอซเก้ร่วมสร้างต้นแบบธุรกิจ
ชโย กรุ๊ป จับมือ 2 พันธมิตร พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล และ เอซเก้ร่วมสร้างต้นแบบธุรกิจชุมชนสมัยใหม่ให้แก่ประเทศไทย พร้อมเสนอบริการสินเชื่อสู่ชุมชนทั่วประเทศ
บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) จับมือ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัด และ บริษัท เอซเก้ จำกัด ลงนามความร่วมมือในการสร้าง “ธุรกิจชุมชนสมัยใหม่” หรือ “Local Enterprise” เพื่อเป็นต้นแบบประเทศไทยในการสร้างธุรกิจชุมชนที่ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ นายณฐพล ทิพชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายบัญชีการเงิน บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายพิษณุพงษ์ ถิรโชติภูวนันท์ กรรมการ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัด นายศิษ พฤกษวัน กรรมการ บริษัท เอซเก้ จำกัด และ นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ที่ปรึกษาโครงการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัดได้ลงนามความร่วมมือในการสร้างโอกาสและอาชีพให้แก่ธุรกิจชุมชนทั่วทุกภาคในประเทศไทย พร้อมเสนอบริการทางการเงินแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและสะดวกสบาย
บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ร่วมกับ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัด และบริษัท เอซเก้ จำกัด ร่วมมือกันดำเนินโครงการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและนาโนไฟแนนซ์ ผ่านเครือข่ายบริการด้านการขนส่ง Drop Point Plus ของเอซเก้ เพื่อนำเสนอข้อมูลสินเชื่อแก่ลูกค้าที่สนใจ พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลกับCHAYO ด้วยเทคโนโลยีออนไลน์ที่พัฒนาร่วมกัน โดยCHAYOพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตรงสู่ลูกค้า ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ 2.5 ล้านบาทต่อสาขา นำร่อง 16 สาขา และ ขยายสู่ Drop Point Plus กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้บริษัทฯสามารถขยายบริการสินเชื่อไปยังชุมชนทั่วประเทศได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น ผ่านขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของบริษัทฯ ขณะที่ พันธมิตร พีเอ็นเอ็นฯ และ เอซเก้ จะคัดเลือกจุดให้บริการDrop Point Plus เพื่อให้ข้อมูลสินเชื่อแก่ลูกค้า เชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสภาพคล่องแก่ประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดCovid-19
นาย พิษณุพงษ์ ถิรโชติภูวนันท์ กรรมการ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯมีแนวคิดในการสร้าง Local Enterprise หรือ ธุรกิจชุมชนสมัยใหม่ ซึ่งหมายถึงธุรกิจดั้งเดิมในชุมชนผนวกการเสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยีและดิจิตัล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาธุรกิจดั้งเดิมให้สามารถคงอยู่คู่กับชุมชนและสนับสนุนให้ธุรกิจเหล่านั้นปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงและสามารถแข่งขันกับธุรกิจยุคใหม่ นำไปสู่การพึ่งพากันเองในแต่ละชุมชน ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มก่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนที่มีความยั่งยืน
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ร้านเครือข่ายด้านการขนส่งDrop Point Plus มีบริการเพิ่มเติมพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ การบริการข้อมูลด้านสินเชื่อจะทำให้คนในชุมชนมีทางเลือกและเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ต้องเดินทางไกล ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายขยายDrop Point Plus จำนวน 200 สาขา ภายในปี 2564 และ 600 สาขาในปี 2565
ด้าน นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ที่ปรึกษาโครงการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท พีเอ็นเอ็น แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า หากชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง จะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน นับเป็นการสร้างโอกาสการกระจายแหล่งทุน ขณะเดียวกันยังเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ นำไปสู่การเกิดขึ้นของนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆที่พร้อมปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีและมีความเข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมาย