ส.แบงก์รัฐ งัด 4 ม.สู้โควิดฯ ชี้อาจปิดบางสาขาเสี่ยง
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ รับลูกนโยบาย ศบค. ประกาศ 4 มาตรการรองรับการให้บริการลูกค้า พร้อมยกระดับสู้โควิด-19 ในพื้นที่10 จ.พื้นที่สีแดงเข้ม ย้ำ! อาจปิดสาขาที่จำเป็น แนะประชาชนเบิกเงินสดผ่านตู้ ATM และบริการ Mobile Banking ของธนาคารสมาชิก
ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ประชุมและมีมติเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2564 เห็นชอบให้ ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับ 10 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลขั้นสูงสุด รวมถึงกำหนดเวลาการออกนอกเคหะสถาน เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ นั้น
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) และธนาคารสมาชิกทุกแห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยในส่วนของ การให้บริการ ณ ที่ทำการสาขาทุกแห่งของธนาคารนั้น ยืนยันว่า ยังให้ความสำคัญกับมาตรการรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ธนาคารอาจพิจารณาปิดให้บริการสาขาบางแห่งตามความจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 10 จังหวัดเป็นการชั่วคราว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งลูกค้าสามารถตรวจสอบสาขาที่ปิดให้บริการชั่วคราวได้ตามประกาศที่ทาง website ของแต่ละธนาคาร
2. กำหนดเวลาเปิดทำการสาขาทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ดังนี้
• สาขาในห้าง/สาขาที่เปิดให้บริการไม่เกิน 17.00 น. จะยังคงเปิดให้บริการเวลาไม่เกิน
17.00 น.
• สาขาอื่น ๆ เปิดให้บริการเวลาไม่เกิน 15.30 น.
• สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เปิดให้บริการเวลาไม่เกินเวลา 15.00 น.
3. จำกัดช่องให้บริการและจำนวนลูกค้าในสาขา เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และลดความแออัด
4. กรณีสาขามีพนักงานหรือลูกค้าติดเชื้อ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
• ให้แต่ละธนาคารปิดบริการสาขาที่มีผู้ติดเชื่อเป็นการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อดำเนินการเสร็จ
• พนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ให้ตรวจหาเชื้อ/และกักตัวเองในที่พักทันที ตามระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
• จัดให้มีพนักงานปฏิบัติงานทดแทน และต้องเป็นพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องหรือสัมผัสเชื้อ
ทั้งนี้ มาตรการรองรับการให้บริการลูกค้าในที่ทำการสาขา จัดทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน รองรับความต้องการของลูกค้าที่ประสงค์เข้ามาทำธุรกรรมสำคัญต่างๆ ที่สาขาของธนาคาร อาทิ การฝาก/ถอน/โอนเงิน ชำระสินเชื่อ หรือค่าบริการต่าง ๆ ธุรกรรมด้านสินเชื่อ และการทำนิติกรรม
ขณะเดียวกัน ลูกค้ายังสามารถใช้บริการสำคัญของธนาคารเพิ่มเติมที่ตู้อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ตู้ ATM ซึ่งธนาคารทุกแห่งได้เตรียมสำรองธนบัตรไว้อย่างเพียงพอ รวมถึง การให้บริการผ่าน Application Mobile Banking ของแต่ละธนาคาร เพื่อลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง และการสัมผัสธนบัตร เพื่อให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่สถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารสมาชิกทุกแห่งมีออกมาในขณะนี้นั้น เป็นเพียงมาตรการเบื้องต้นที่จะช่วยดูแลลูกค้าประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการใช้บริการอย่างเต็มที่ โดยจากนี้ไปธนาคารสมาชิกแต่ละแห่ง พร้อมจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อดูแลให้ลูกค้าประชาชนได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบายใจการใช้บริการทางการเงินกับธนาคารทุกแห่งให้มากที่สุด ต่อไป.