ธอส.ขยายเวลาช่วยเหลือลูกหนี้เหยื่อโควิดฯถึงสิ้นปีนี้
ธอส. ขานรับนโยบาย รมว.คลัง ขยายเวลาช่วยเหลือสำหรับลูกค้าเดิมใน 7 มาตรการ ที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 จนถึงสิ้น ธ.ค.นี้ ยกเว้น! มาตรการที่ 12 ลงทะเบียนได้ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่ มิ.ย.- พ.ย.นี้
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของ รมว.คลัง ที่ต้องการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังนั้น คณะกรรมการธนาคาร โดย นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการธนาคาร จึงได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารฯ ขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าเดิม ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการความช่วยเหลือฯ ของธนาคารฯ ตาม “โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564” จำนวน 7 มาตรการ ไปสิ้นสุดความช่วยเหลือในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (จากเดิมสิ้นสุดความช่วยเหลือ 31 กรกฎาคม 2564)
ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าของ ธอส. ที่อยู่ระหว่างการรับความช่วยเหลือตามมาตรการรวมกว่า 143,100 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 137,260 ล้านบาท โดยเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line ได้ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.ค.นี้ (ยกเว้นมาตรการที่ 12 ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนพฤศจิกายน 2564 ที่สำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศ) ประกอบด้วย
มาตรการที่ 9, 10, 11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก)
เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบัน โดยทั้ง 4 มาตรการ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในมาตรการทั้งที่ มีสถานะบัญชีปกติ สถานะ NPL ลูกหนี้สถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้
มาตรการที่ 12 : ขยายระยะเวลาลดเงินงวดผ่อนชำระ และพักชำระหนี้ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการสินเชื่อแฟลตรายเดิมที่อยู่ในมาตรการความช่วยเหลือของธนาคารฯ ครอบคลุมลูกค้าผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ณ วันที่ 1 ม.ค. 2563)และไม่เคยเข้าร่วมมาตรการของธนาคารมาก่อน หากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ สามารถเลือก จ่ายเงินงวดผ่อนชำระเหลือ 25% หรือ 50% หรือ 70% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบัน (ตัดเงินต้นและดอกเบี้ย)
หรือ เลือกพักชำระหนี้ หากได้รับกระทบรุนแรงที่ไม่สามารถประเมินกระแสเงินสดของกิจการ หรือไม่สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ตามปกติ โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.- พ.ย. 2564 และได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือน ธ.ค. 2564 ระยะเวลาสูงสุด 7เดือน สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศ
มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) ที่อยู่ระหว่างใช้มาตรการความช่วยเหลือเดิมของธนาคาร
มาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะพ้นสิทธิการปรับโครงสร้างหนี้ที่ใช้อยู่หากใช้มาตรการที่ 14 และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้หรือตามคำพิพากษา
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์เข้ามาตรการเพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือ จะต้อง Upload หลักฐานยืนยันว่าได้รับผลกระทบทางรายได้ผ่านทาง Application : GHB ALL และ GHB Buddy ให้ธนาคารฯพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย หรือ Statement เป็นต้น
ส่วน กรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ที่ www.ghbank.co.th และภายในเดือน ต.ค.นี้ ธนาคารฯจะทำการสำรวจความประสงค์ของลูกค้าอีกครั้งว่ามีความพร้อมที่จะกลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติหรือไม่ หรือยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้ และต้องการรับความช่วยเหลือต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center)โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Application : GHB ALL.