ธ.ก.ส.ขยายเวลาปล่อยกู้หนุนธุรกิจประมงถึง เม.ย.69
ธ.ก.ส. ลากยาว…ยืดเวลาปล่อยกู้เสริมสภาพคล่องให้ชาวประมง ถึง 30 เม.ย.69 เฉพาะกลุ่มขึ้นทะเบียนกับกรมประมง วงเงินไม่เกิน 5 ล้าน จ่ายเอง 4% ที่เหลือรัฐอุดหนุน ตีกรอบคืนหนี้ไม่เกิน 7 ปี แนะติดต่อขอรับสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. 22 จ.ติดทะเล
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารฯได้ขยายเวลาให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ 22 จังหวัดติดชายฝั่งทะเล จากเดิมสิ้นสุด พ.ค.2564 เป็นสิ้นสุด 30 เม.ย. 2569 หลังจากมีผู้ประกอบการประมงที่ลงทะเบียนกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อตามโครงการดังกล่าว 1,761 ราย รวม543 ล้านบาท จากวงเงิน 5,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการประมงได้มีความต่อเนื่องในการดำเนินงาน สามารถบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่อง มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ ปรับปรุงเรือประมง ปรับเปลี่ยนเครื่องมืออุปกรณ์การประมงให้ถูกต้อง ป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU) รวมถึง พัฒนาและยกระดับการทำประมงให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล รักษาทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเลให้อยู่อย่างยั่งยืน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นบุคคลธรรมดาอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีสัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย ทั้งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ที่มีเรือประมงขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส และมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพประมงมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
กรณีเป็นผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ต้องมีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ กับกรมประมงไว้แล้ว โดยมีวงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งผู้กู้ชำระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 4 ต่อปี โดยรัฐบาลจะสนับสนุนดอกเบี้ยส่วนที่เหลือแทน กำหนดระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 7 ปี นับจากวันกู้
ในส่วนของหลักประกัน สามารถใช้ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง บุคคลค้ำประกัน หลักประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) / หรือหลักประกันอื่นๆ ตามที่ธนาคารประกาศกำหนด
ผู้ที่สนใจสามารถขอรับการสนับสนุนสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ในพื้นที่ 22 จ. ได้แก่ จ.ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล ตรัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ และระนอง หรือสอบถามที่ Call Center 02 555 0555.