บสย.อนุมัติวันเดียว – ค้ำสินเชื่อฟื้นฟู 3.3 พันล.
คาด ส.ค.-ก.ย.นี้ กลุ่ม SMEs แห่ขอสินเชื่อฟื้นฟูฯ 2.5 แสนล้านบาท ทะลัก! หลังรัฐเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดฯ เผย! ปมวงเงินไม่ขยับ เหตุจาก “การติดต่อช่วงโควิดฯ – SMEs ชั่งใจไม่เข้าโครงการฯ” ด้าน บิ๊ก’บสย. แนะ ติดต่อขอคำปรึกษาปูทางขอกู้ไว้ก่อน เหตุ เงื่อนไขดี ดบ.ต่ำ อนุมัติง่ายและเร็ว แค่วันเดียว ระบุ! อนุมัติแล้วกว่า 2.7 พันราย วงเงิน 3.3 พันล้านบาท คาดตัวเลขจะขยับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ต่อไป
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/3-1-2.jpg)
บ่นกันอุบ! สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและธุรกิจที่เล็กกว่านั้น เพราะต่างได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน กับการระบาดมาแล้ว 3 ระลอกใหญ่…
บ่น! เพราะเม็ดเงินกู้ที่ภาครัฐ โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หวังนำมาปล่อยกู้เพื่อการเยียวยา ไม่ว่าจะใช้เป็น….การเสริมสภาพคล่อง หรือต่อยอดธุรกิจ…แต่กลับถูกเงื่อนปมที่แข็งขันบีบรัด! จนบรรดาแบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐ…ไม่กล้าปล่อยกู้?
แม้จะได้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) คอยค้ำประกันเงินกู้ให้กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แล้วก็ตาม
แต่การปล่อยกู้…ไม่คืบหน้าอย่างที่คาดหวัง!
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/checklist-softloan-2.jpg)
เป็น ธปท.ที่ต้องปรับลดเงื่อนไขให้อ่อนลง เพื่อที่แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐ จะได้นำเม็ดเงินจาก พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 หรือ พ.ร.ก.Soft Loan วงเงิน 5 แสนล้านบาท มาใช้เพื่อการนี้…
กระทั่ง ต้องออก กฎหมายฉุกเฉินตัวใหม่ ที่ชื่อ…พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 หรือ พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู-พักทรัพย์-พักหนี้ วงเงินไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564
กฎหมายตัวนี้ มี 2 มาตรา คือ 1. มาตรการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และ 2.มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท
ว่ากันเฉพาะ…มาตรการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/วสุกานต์-บสย.7-1.jpg)
เฟสแรก ธปท.ให้แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก้อนแรก 1 แสนล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาต้องไม่เกิน 5% ต่อปี โดย 2 ปีแรก ให้คิดฯไม่เกิน 2% ต่อปี และไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้ประกอบธุรกิจในระหว่าง 6 เดือนแรก นับแต่วันที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับสินเชื่อ
โดยให้ บสย.ค้ำประกันเต็มจำนวน และค้ำทุกเคส
ที่สุด! ก็ยังคงล่าช้า…อะไรคือสาเหตุทำให้ล้าช้า?
นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการ ผจก.ทั่วไป บสย. ยืนยันว่า…ทุกเคสที่ส่งมาถึง บสย. จะใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติเพียง 1 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 3 วัน เพื่อพิจารณาค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู (LG) และเพราะการค้ำประกันทุกเคส นั่นจึงทำให้ ณ วันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา บสย.ค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูไปแล้วกว่า 2,700 ราย คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 3,400 ล้านบาท
แม้จะดูน้อยมาก…เมื่อเทียบกับเม็ดเงินในเฟสแรก 1 แสนล้านบาท นั่นเพราะมี 2 ปัจจัยสำคัญทำให้เป็นเช่นนี้…
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/บสย._ข้อดี-6-ประการ.jpg)
หนึ่ง…ท่ามกลางภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯ ทำให้การติดต่อเพื่อขอรับส่งเอกสารสำคัญ ระหว่างแบงก์ต้นทางกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นไปด้วยความยากลำบาก ความล่าช้าของการติดต่อสื่อสาร จึงเป็นปัญหาสำคัญของเรื่องนี้
อีกหนึ่ง…ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อยู่ระหว่าง “ชั่งใจ” หากได้เงินกู้ที่มีภาระต้นทุนทางการเงินมาแล้ว โดยที่ยังไม่สามารถดำเนินงานหรือขยายกิจการใดๆ ได้ จะเป็นภาวะความเสี่ยงของพวกเขาหรือไม่? จึงทำให้เกิดภาวะการชะลอตัวในการเข้าโครงการฯ
กระนั้น แบงก์ต้นทางก็พยายามสื่อสารกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง หวังให้รับรู้ข่าวสารนี้ เพื่อที่จะได้เข้ามาตรการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูฯ
ขณะที่ ธปท.เอง ได้อนุมัติให้แบงก์ฯปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท แต่ที่มาถึง บสย.เพียงกว่า 3,400 ล้านบาท นั่นเพราะอีกราว 2,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเรียกรับและขอเอกสารจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/วสุกานต์-บสย.8-1-1.jpg)
แน่นอนว่า…เมื่อเรื่องส่งมาถึง บสย. การพิจารณาอนุมัติค้ำประกันฟื้นฟูจะแล้วเสร็จภายใน 1 วันเช่นเดิม
“ช่วงนี้…ปริมาณสินเชื่อที่จะให้ บสย.ค้ำประกันฯยังไม่มีมาก เราจึงใช้เวลาเพียงแค่วันเดียว แต่เชื่อว่าหลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิดฯแล้ว ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน น่าจะมีปริมาณสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้หลายเท่าตัว นั่นเพราะทุกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่นในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯ และมั่นใจที่จะกลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่อไป” รักษาการ ผจก.ทั่วไป บสย. กล่าว
สำหรับการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูของ บสย. ตามมาตรการนี้ ดำเนินการร่วมกับแบงก์หลัก ประกอบด้วย…ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก (EXIM BANK) วงเงินประกันต่อราย 1.25 ล้านบาท
โดยมีประเภทธุรกิจที่ค้ำประกันมากสุด เรียงตามลำดับ คือ 1.ธุรกิจการบริการ, 2.การผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ และ 3.การเกษตรกรรม
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/05/วสุกานต์-บสย.9-1.jpg)
“นับเป็นสัญญาณดีของโครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู ซึ่งเริ่มมีการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ โดย บสย.ทำหน้าที่เป็นหลักประกันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี กลุ่มคอปอเรท และบุคคลธรรมดา พร้อมเงินเงื่อนไขที่ดีที่สุด คือ ดอกเบี้ยต่ำ คาดว่าแนวโน้มจากนี้จะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นางวสุกานต์ ระบุและว่า
แบงก์ต่างๆ อาจขยายหรือไม่ขยายเวลาในโครงการฯ ที่ ธปท.กำหนดไว้ 5 ปี แต่สำหรับ บสย.แล้ว พร้อมค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูฯ ต่อไปสูงสุดจนครบ 10 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เดินหน้าธุรกิจด้วยความมั่นใจ
ทั้งนี้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูฯ เริ่มคิกออฟฯตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
หากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสนใจจะเข้าโครงการฯ สามารถติดต่อ Call Center ของ บสย. 02-890-9999 รวมถึงศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. F.A. Center) โทร.065-507-8999, Line@doctor.tcg, เว็บไซต์ www.tcg.or.th และสำนักงานเขต สบย.ทั้ง 11 แห่ง เพื่อขอรับคำแนะนำเข้าถึงแหล่งทุนและโครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูได้ทุกวันในเวลาทำการ.