โควิดระลอก3ฉุดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้เหลือ2.5 แสน-1.2 ล้านคน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินการระบาดของโควิคระลอก3 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลดเหลือ 2.5 แสนคน – 1.2 ล้านคน จากเดิมคาดที่ 2 ล้านคน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินการระบาดของโควิด 2 ระลอกในรอบ 3 เดือน กระทบเส้นทางการฟื้นตัวของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2564 โดย
ภายใต้ความเสี่ยงที่การควบคุมการระบาดระลอก 3 ที่น่าจะใช้ระยะเวลานานกว่ารอบก่อนหน้า เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อสูงและการแพร่เชื้อที่เร็ว ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงที่เหลือของปีนี้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมการท่องเที่ยวที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จากการระบาดของโรคโควิดยังไม่ยุติลงในระยะเวลาอันใกล้ทั้งในและต่างประเทศ
แม้มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ทางการคงจะมีการเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ตตามแผน เพื่อที่จะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยตามแผนที่วางไว้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปและปัจจัยแวดล้อมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมีความท้าทายดังที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ น่าจะต่ำกว่าที่ประเมิน โดยมองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งปี 2564 จะมีจำนวนประมาณ 2.5 แสนคน – 1.2 ล้านคน เป็นการปรับลดประมาณการจากเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่มองว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 2.0 ล้านคน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ทุกภาคส่วนคงจะต้องกลับมาร่วมมือกันในการควบคุมการระบาดของโรคให้จบโดยเร็ว และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโควิดที่เข้มงวด เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำตลาดท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี 2564 นี้ และหากเราสามารถควบคุมได้เร็ว ทางการน่าจะทำ Travel Bubble กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำและเป็นตลาดท่องเที่ยวหลักของไทย อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม เป็นต้น
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยในช่วงที่เหลือของปี อาทิ นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่าง จีน (เป็นกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวเอง สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ขึ้นอยู่กับนโยบายการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศของทางการจีน) ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และนักท่องเที่ยวจากอเมริกา เป็นต้น