KTCตั้งเป้าปี64รุกขยายสินเชื่อมีหลักประกัน

เคทีซีประกาศกลยุทธ์ปี 64 เน้นขยายธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน ผ่านเคทีซีพี่เบิ้มและเคทีบีลิสซิ่ง หวังเป็นพระเอกหนุนกำไรโตทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลจะเน้นรักษาลูกหนี้ดี ตั้งเป้าปีนี้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต8% แตะ 210,000 ล้านบาท

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) คาดการณ์ว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเชื่อว่ากำไรสุทธิปี 64 จะยังทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)ต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,332.87 ล้านบาท แม้จะเกิดวิกฤตโควิด -19 และมาตรการต่างๆของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 64 เติบโต 8% หรือประมาณ 210,000 ล้านบาท จากปีก่อนลดลง -7.7% แต่การติดลบก็ปรับตัวดีขึ้นมาที่อยู่ที่ -1% จากการซื้อของผ่านออนไลน์
“สำหรับธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ”เคทีซี พี่เบิ้ม”แม้จะเป็นธุรกิจน้องเล็กที่เพิ่งเข้ามาเมื่อปลายปี 2563 แต่เราคาดหวังจะมุ่งขยายตลาดเป็นหลักในปี 2564ด้วยความที่เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วสอดคลัองกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์ที่มีทีมงาน”พี่เบิ้ม Delivery โดยมีเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ประมาณ1,000 ล้านบาท”
ด้านนางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้ม กล่าวถึง กลยุทธ์ การดำเนินงานในปีนี้ ว่าจะเน้นในเรื่อง เดลิเวอรี่ ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังเน้น ช่องทางการทำการตลาดผ่านเอาท์ซอส รวมถึงการมีพันธมิตร เช่น ลาล่ามูฟ หรือธนาคารกรุงไทย โดยบริษัท มีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อผ่านระบบ delivery ให้มีสัดส่วนอยู่ที่ 80% จะปัจจุบันอยู่ที่ 60%
สำหรับการขยายสาขาไปกับธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันมีประมาณ 290 สาขา และคาดว่าในเดือนมีนาคมถึงเมษายนนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 300 สาขา เน้นไปที่ภาคเหนือตอนบน ภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก
ส่วนการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ย ในธุรกิจ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ นางสาวเรือนแก้ว ชี้แจงว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของบริษัทอยู่ที่ระดับ 21% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งบางรายในตลาด แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะจากผลสำรวจของบริษัทพบว่า เชื่อส่วนใหญ่ให้น้ำหนัก กับเรื่อง วงเงินและระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติมากกว่าอัตราดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทมีจุดเด่นในเรื่องการพิจารณาอนุมัติที่ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชั่วโมงและวงเงินที่บริษัทให้สูงสุดอยู่ที่ 700,000บาทต่อคัน
นายชุติเดช ชยุติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เคทีซี กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าถือหุ้นในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (เคทีบี ลีสซิ่ง) ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในเครือธนาคารกรุงไทย ในสัดส่วน 75.05% ซึ่งจะทำให้เคทีซีสามารถทำธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งทุกประเภท ต่อยอดธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันได้อย่างครบวงจร และยังได้ใช้ประโยชน์จากสาขาและฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม โดยบริษัทฯ จะเข้าไปศึกษาระบบในเคทีบี ลีสซิ่ง และคาดว่าจะเริ่มออกแบบโมเดลธุรกิจได้หลังจากผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ซึ่งเบื้องต้นหากผู้ถือหุ้นอนุมัติ ก็จะต้องรอทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุมัติขอบเขต จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการโอนหุ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในสิ้นเดือนเม.ย.64
บริษัทฯยังมีแผนออกหุ้นกู้ระยะสั้น และระยะยาว (ในช่วงอายุที่สั้นลงจากเดิม หรือไม่เกิน 5 ปี) ในวงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาท โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการออกหุ้นกู้ไปแล้วจำนวน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ 1.4% อายุ 3 ปี ซึ่งเป็น Zero Coupon Bond เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ ส่วนที่เหลืออีก 9,000 ล้านบาท จะออกเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะทยอยครบกำหนดอายุ