กสิกรไทยคาดกำไรระบบธนาคารปี64โต 3-7%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดปี 2564 ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีกำไรสุทธิที่ระดับ 1.48-1.54 แสนล้านบาท ขยับขึ้น 3.0-7.0% สินเชื่อโต 3-4.5% และหนี้NPLs ของระบบธนาคารพาณิชย์ขยับขึ้นต่อเนื่องแตะที่ 3.53%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า หากเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขยายตัวได้ที่ระดับ 2.6% ตามประมาณการของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยอาจบันทึกกำไรสุทธิในปี 2564 ที่ระดับ 1.48-1.54 แสนล้านบาท ขยับขึ้น 3.0-7.0% เมื่อเทียบกับฐานระดับกำไรสุทธิที่ต่ำของปี 2563 ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับมีแรงหนุนจากการชะลอลงของค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเร่งกันสำรองฯ ไปมากในปี 2563
นอกจากนี้ในปี 2564 ยังเป็นช่วงที่ธนาคารพาณิชย์ยังได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายเกณฑ์การจัดชั้นหนี้ของธปท. ในกรณีที่สถาบันการเงินเร่งปรับโครงสร้างให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และยังไม่ต้องกันสำรองสำหรับวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้ด้วยเช่นกัน
ส่วนสินเชื่อของระบบธ.พ. ไทยในปี 2564 อาจเติบโตในกรอบประมาณ 3.0-4.5% ชะลอลงจากที่คาดว่า จะปิดปี 2563 ที่ระดับสูงกว่า 4.5%
ซึ่งคงต้องยอมรับว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากความผันแปรของสถานการณ์โควิดระลอกใหม่น่าจะมีผลทำให้โจทย์ความสามารถในการประคองรายได้จากธุรกิจหลัก ควบคู่ไปกับการดูแลปัญหาคุณภาพหนี้ของธนาคารพาณิชย์ในปี 2564 มีความท้าทายไม่น้อยไปกว่าปี 2563 แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า สถานะทางการเงินของระบบธนาคารพาณิชย์จะยังมีความแข็งแกร่ง สะท้อนจากอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงกว่าเกณฑ์ และมีอัตราส่วนเงินสำรองที่มีอยู่ต่อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Coverage Ratio) ในระดับสูงประมาณ 1.4-1.5 เท่า
ขณะที่ NPLs ของระบบธนาคารพาณิชย์อาจขยับขึ้นต่อเนื่องไปที่ 3.53% ณ สิ้นปี 2564 จากระดับประมาณการสิ้นปี 2563 ที่ 3.35% ของสินเชื่อรวม โดยในปี 2564 คาดว่าจะเห็นธนาคารพาณิชย์เร่งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในพอร์ต ควบคู่ไปกับการทยอยประเมินจังหวะของการตัดหนี้สูญและขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เพราะคงต้องยอมรับว่า สัญญาณเศรษฐกิจไทยในปี 2564 เริ่มมีความไม่แน่นอน และแนวโน้มยังขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงและความสามารถในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ