“บีซีพีจี” ลุยแผนผู้นำโรงไฟฟ้าอาเซียน
บีซีพีจี เพิ่มทุน ฉลุย ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเต็มจำนวน “บัณฑิต” เตรียมขยายแผนธุรกิจในอนาคต ขึ้นแท่นผู้นำโรงไฟฟ้าภูมิภาคอาเซียน
หลังจาก บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ บีซีพีจี ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 250 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 5 บาท ในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ราคาเสนอขาย 11.50 บาท
ซึ่งได้มีการเปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 และวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
ปรากฏว่า…ได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นอย่างดีเยี่ยม
“นายบัณฑิต สะเพียรชัย” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บีซีพีจี บอกว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ต่อศักยภาพในการเติบโตของบีซีพีจี ที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคอาเซียน
ในส่วนของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บีซีพีจี ที่ได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเข้ามาเต็มสัดส่วน เพื่อเสริมฐานะทางการเงินของบีซีพีจี ให้มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคต
ขณะเดียวกันหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ให้กับ พิลกริม พาร์ทเนอร์ส เอเชีย (Pilgrim Partners Asia) และ แคปปิตอล เอเชีย อินเวสเมนท์ส (Capital Asia Investments) ได้ใช้สิทธิและใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
นายบัณฑิต บอกว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ทำให้ บีซีพีจี ได้รับเงินทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้ฐานทุนของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ทั้งยังเป็นการช่วยเสริมสร้างโอกาสในการขยายการลงทุน เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการพัฒนาธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ 3,750 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการใช้เงินในปี 2563-2566
และนำไปชำระคืนเงินกู้สำหรับการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย ในปี 2563-2565
นอกจากนี้ “บีซีพีจี” ยังเตรียมไปชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนในการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B กำลังการผลิตรวม 114 เมกะวัตต์
รวมถึงการนำเงินไปลงทุนสำหรับการติดตั้ง สายส่งสำหรับการจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเวียดนามได้ตามแผน รวมประมาณ 1,870 ล้านบาท ภายในปี 2563
ส่วนที่เหลืออีก 3,700 ล้านบาท จะนำไปใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศภายในปี 2563-2564
อย่างไรก็ดี แผนขยายแผนธุรกิจเหล่านี้ จะส่งให้ “บีซีพีจี” ขึ้นแท่นผู้นำโรงไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียนหรือไม่ ต้องจับตาดู…