กฟผ.ปรับแผนเพิ่มประสิทธิภาพผลิตไฟฟ้า
กฟผ. ปรับกลยุทธ์ นำนวัตกรรม ระบบอัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า พร้อมเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายรัฐ
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการอาวุโส การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผย ทิศทางการดำเนินงานด้าน พลังงานและนวัตกรรม ของ กฟผ. ว่า กฟผ. ในฐานะองค์กรหลักของประเทศที่ดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้า ได้ปรับกลยุทธ์นำนวัตกรรมและระบบอัจฉริยะเข้ามาใช้ในการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่เป็น Super Grid เพื่อให้การส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพและความยืดหยุ่น รองรับการซื้อขายพลังงานในระดับภูมิภาค
อาทิ โครงการนำร่องระบบกักเก็บพลังงานในระดับโครงข่ายไฟฟ้า (Grid-Scale Battery Energy Storage) ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง เพื่อจัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าในบริเวณที่มีปริมาณพลังงานหมุนเวียนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ กฟผ. (Hydro-Floating Solar Hybrid Project) จำนวน 16 โครงการ ในบริเวณ 9 เขื่อน รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 2,725 เมกะวัตต์
ศูนย์ควบคุมพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Control Center : RECC) เพื่อจัดการและพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การจัดตั้งศูนย์ควบคุมการตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand Response Control Center : DRCC) เพื่อให้สามารถทำงานและสั่งการในระยะไกลในรูปแบบโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant)
รวมถึงการเข้าสู่ธุรกิจนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และส่งเสริมการเปิดเสรีในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย ตลอดจนการแสวงหาพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสพัฒนาธุรกิจใหม่จากนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย อาทิ เทคโนโลยี AI การซื้อขายแบบ Peer to peer แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (BESS)
นอกจากนี้ กฟผ. ยังเตรียมเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชนจากเชื้อเพลิงชีวมวล และก๊าซชีวภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่ได้รับมอบหมาย ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้ประโยชน์สูงสุดจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลกมาใช้บริหารการจัดการระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น