“เกรท วอลล์” ลุยผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
รมว.สุริยะ ปลื้ม แผนลงทุน เกรท วอลล์ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยายนต์ ในไทย เตรียมวางจำหน่าย รถยนต์รุ่นแรก SUV และรถกระบะต้นปี 2564
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังให้ นายจาง เจียหมิง ประธานกลุ่มบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เข้าพบว่า ได้มีการหารือ ถึงนโยบายส่งเสริมการผลิตและสิทธิประโยชน์ของรถยนต์ xEV หรือยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มาตรการกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างอุปทาน การเตรียม ความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการบริหารจัดการซากรถและแบตเตอรี่ใช้แล้ว โดยที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับการส่งเสริมลงทุนเพิ่มเติมสำหรับกิจการผลิต xEV
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ฯ มีแผนผลิตรถยนต์ในไทย คาดว่าจะเริ่มปรับปรุงสายการผลิตเดิมช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยนำระบบสมองกลเข้ามาใช้ภายในโรงงาน เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง HEV PHEV และ BEV กำลังการผลิต 8 หมื่นคันต่อปี การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรและปรับสายการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนคือภายในสิ้นปี 2563 นี้ และจะเริ่มทำการผลิตรถยนต์รุ่นแรก SUV และรถกระบะออกวางจำหน่าย ในต้นปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะเกิดการลงทุนกว่า 2.26 หมื่นล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 3,435 คน
นอกจากนี้ยังมีแผนการผลิตชิ้นส่วน เช่น แผนการผลิตแบตเตอรี่ โดยมีการผลิตโมดูล การแพ็คแบตเตอรี่ การตรวจสอบคุณภาพ และมีแผนการผลิตชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อรองรับสมรรถนะการใช้พลังงานและประหยัดของรถ HEV และ PHEV สำหรับแผนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศปี 2564 คาดว่าจะมีการใช้ชิ้นส่วน ในประเทศร้อยละ 45 สำหรับรถยนต์รุ่นแรก ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนหลากหลายประเภท และมีแผนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นร้อยละ 90 ภายในปี 2568 และยังมีแผนการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา ประกอบด้วย ศูนย์ออกแบบและพัฒนา ศูนย์ตรวจสอบประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะ และศูนย์ฝึกอบรม โดยเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่รองรับการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน
“เกรท วอลล์ฯ แสดงเจตนารมณ์จะเข้ามาลงทุนที่ไทยและมีแผนที่ชัดเจนถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตลาดมาก เพราะผู้บริโภคในประเทศจะมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และประเทศไทยมีศักยภาพ ในการผลิตชิ้นส่วนรองรับอย่างเพียงพอโดยมีมูลค่าการส่งออกสูงเทียบเท่ามูลค่าการส่งออกรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ในปัจจุบันก็มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศสูงกว่าร้อยละ 80 – ร้อยละ 90” นายสุริยะ กล่าว