สนพ.เผยสาเหตุ ราคา Spot LNG ปรับเพิ่มขึ้น
สนพ.เผย ราคา Spot LNG ปรับตัวสูงขึ้น หลัง ออสเตรเลียและมาเลเซียหยุดการผลิต ด้าน จีนและญี่ปุ่นยังมีระดับสำรอง LNG สูง
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้เปิดเผยว่า ราคา Spot LNG เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.202 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 2.346 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อการหยุดผลิตกะทันหันของโครงการผลิต LNG ในประเทศออสเตรเลียและมาเลเซีย เนื่องจากบริษัทที่มีสัญญาซื้อขาย LNG กับโครงการดังกล่าว อาจมีความต้องการจัดหาเที่ยวเรือเร่งด่วน (Prompt cargo) หากโครงการไม่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ความต้องการซื้อ Spot LNG จากประเทศผู้ซื้อยังคงมีจำกัดจากความไม่แน่นอนของความต้องการใช้ก๊าซฯ จากภาคไฟฟ้าและอุตสาหกรรม โดยประเทศจีนและญี่ปุ่นยังคงมีระดับ LNG สำรองสูงและเผชิญสภาวะฝนตกหนักในช่วงนี้
สำหรับสถานการณ์ราคา Spot LNG ช่วงวันที่ 13 – 17 กรกฎาคม 2563 โดยสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) – ราคาก๊าซธรรมชาติ (Pool) เดือนมิถุนายน 2563 อยู่ที่ 223.5030 บาท/ล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 4.2937 บาท/ล้านบีทียู จากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น
ส่วน ราคา Spot LNG เฉลี่ยมิถุนายน 2563 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 0.040 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 2.107 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู
ด้าน ราคาก๊าซ NGV ปัจจุบันราคาขายปลีกก๊าซ NGV (สถานีภายในรัศมี 50 กม. จากสถานีแม่) ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2563 (ตามมติ กบง. วันที่ 19 วันที่ 25 มีนาคม และวันที่ 15 มิถุนายน 2563) ดังนี้ รถยนต์ส่วนบุคคล 15.31 บาท/กก. รถยนต์สาธารณะ 10.62 บาท/กก. สำหรับสถานีลูกที่อยู่ไกลสถานีแม่มากที่สุด (ไม่รวมภาษี อบต. 19.31 บาท/กก.
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ปริมาณการจำหน่ายก๊าซ NGV อยู่ที่ 3,640 ตันต่อวัน (หรือประมาณ 149.24 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน) และมีสถานีบริการ NGV สะสมจำนวน 511 สถานี ทั้งนี้ มีสถานีบริการที่ยังเปิดให้บริการทั้งหมด 434 สถานี แบ่งเป็น สถานีแม่ 19 สถานี สถานีลูกและสถานีแนวท่อ 415 สถานี