EA เร่งสร้าง รง.ผลิตแบตเตอรี่ ลิเทียม ไอออน
EA เผย เตรียมงบ 7,000 ล้านบาท ดำเนินงานโครงการหนุมาน พร้อมเร่งรัดสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ลิเทียม ไอออน และ ต่อยอดธุรกิจใหม่
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในปี 2562 จะใช้เงินทุนจากทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินงานประมาณ 7,000 ล้านบาท ร่วมกับกระแสเงินสดที่จะได้ในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจากปีก่อนด้วยผลการดำเนินงานจากโครงการหนุมาน อีกทั้งจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้ ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำเนินโครงการต่างๆ
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจปี 2562 นอกจากจะเร่งรัดสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ลิเทียม ไอออน แล้ว บริษัทยังมีแผนลงทุนในการพัฒนาธุรกิจต่อยอดใหม่ๆ ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทในกลุ่มได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเตรียมการอย่างจริงจังตลอดปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้เริ่มเห็นผลงานและทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตามแผนงานของแต่ละสายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านคมนาคมที่จะสร้าง Smart Transport แบบครบวงจร
สำหรับในงาน Bangkok International Motor Show ปีนี้ บริษัทจะนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นอเนกประสงค์ “MINE MPV” ที่พัฒนาจนใกล้พร้อมจะจำหน่ายแล้วไปแสดง และเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ พร้อมกับเลือกสีได้ โดยมีแผนจะเริ่มส่งมอบรถ EV ได้ต้นปี 2563 ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการเริ่มให้บริการเรือไฟฟ้าที่จะให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเชื่อว่า เทคโนโลยีและการต่อยอดธุรกิจของเราจะช่วยแก้ปัญหามลภาวะและฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในระดับประเทศที่ต้องแก้ไข เร่งด่วนได้
ส่วนธุรกิจไบโอดีเซล แม้จะได้รับผล กระทบจากภาวะตลาดของราคาปาล์มลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากผลผลิตปาล์มล้นตลาด ทำให้รายได้จากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลลดลง แต่ในด้านรายได้ของผลิตภัณฑ์พลอยได้อย่างกลีเซอรีน ประสบความสำเร็จทางการตลาดด้วยดี ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 6% จากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 4.74% นอกจากนี้ บริษัทยังคงเตรียมความพร้อมในการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายโรงงานแห่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ด้วยงบประมาณ 1,100 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,975.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.33% จากปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 3,817.45 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 12,490.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,673.50 ล้านบาท จากผลประกอบการจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหาดกังหันและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 4 แห่ง
ทั้งนี้หากไม่นับรวมกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการรวมธุรกิจ Amita Technologies Inc., ไต้หวัน เข้ามา ก็จะมีกำไรสุทธิ 4,080.63 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามา 7,192.71 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามคาด และจะใช้ในการดำเนินการตามแผนขยายธุรกิจของบริษัทต่อไป