ปตท.อัดงบลงทุนครึ่งปีหลัง 1.49 แสนลบ.
กลุ่ม ปตท.เตรียมงบประมาณ 1.49 แสนล้านบาท ลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง คาด GDP ติดลบ 8.1% กระทบยอดขาย ไม่เกิน 10% ส่วนราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.และบริษัทในกลุ่มยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้วางเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2.74 แสนล้านบาท ซึ่งได้ใช้ไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรกกว่า 1.2 แสนล้านบาท และเตรียมจะใช้เงินอีกประมาณ 1.49 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง มีโครงการสำคัญ ได้แก่ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5, สถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal), การขยายสถานีบริการน้ำมัน ของบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)
โครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เอส 1 , อาทิตย์ , สินภูฮ่อม , G2/61 ,G1/61 ,บงกช และโครงการพัฒนาพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ,โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของบมจ.ไทยออยล์ (TOP) และโครงการโรงงานโอเลฟินส์ (Olefins Reconfiguration Project :ORP) ของบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เป็นต้น
นอกจากนี้ ปตท.ยังทบทวนแผนลงทุนปี 64 เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถเร่งโครงการลงทุนปีหน้าให้เร็วขึ้นมาเป็นปีนี้ได้หรือไม่ ซึ่งจะมีการทบทวนแผนลงทุนดังกล่าวในช่วงเดือนก.ค.นี้ โดยตามแผนปตท.และบริษัทในกลุ่ม จะลงทุนรวมประมาณ 2.09 แสนล้านบาทในปี 64 ขณะที่ภาพรวมงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 2563-2567) มีเงินลงทุนรวมประมาณ 9.63 แสนล้านบาท
สำหรับคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยที่คาดว่าในปีนี้จะติดลบ 8.1% นั้น คาดว่ายอดขายของกลุ่ม ปตท.น่าจะได้รับผลกระทบไม่เกิน 10% เนื่องจากยอดขายของกลุ่ม ปตท.ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมองว่ายอดขายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดีขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะทำให้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันลดลง และยอดขายน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล