GULF ปรับสัดส่วนลงทุนสาธารณูปโภค ในโอมาน
GULF ปรับสัดส่วนลงทุน กิจการสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำ และก๊าซในโอมาน รองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคต
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เผยว่า แจ้งว่าตามที่บริษัทได้เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 326 เมะวัตต์ (MW) และมีกำลังการผลิตน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (โครงการ DIPWP) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ที่ประเทศโอมาน ร่วมกับ Centralised Utilities Company L.L.C. (Marafiq) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OQ SAOC. (OQ) (เดิมชื่อ Oman Oil Company S.A.O.C.) ในสัดส่วน 45% และ 55% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำจืดให้กับโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ คือ Duqm Refinery and Petrochemical Industrial Company L.L.C. ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพลังงานขนาดใหญ่จากสองประเทศ ได้แก่ OQ จากประเทศโอมาน และ Kuwait Petroleum International จากประเทศคูเวต โดยโครงการ DIPWP อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ถึง 2565
ล่าสุดบริษัทเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ซึ่ง Marafiq ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจน้ำ และธุรกิจก๊าซ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm เป็นระยะเวลา 25 ปี และสามารถขยายอายุสัญญาต่อได้อีก 25 ปี บริษัทจึงได้เข้าเจรจากับ Marafiq ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยให้ Marafiq ถือหุ้นในโครงการ DIPWP 100% และให้บริษัทเข้าถือหุ้นใน Marafiq ร่วมกับ OQ ในสัดส่วน 49% และ 51% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เพื่อจะร่วมกันพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค เช่น การผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า น้ำจืด ไอน้ำ น้ำเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling) การบริหารจัดการน้ำเสียและท่อน้ำทิ้ง การบริหารจัดการของเสียจากอุตสาหกรรม การจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ และก๊าซอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีศักยภาพ สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจที่จะเติบโตในอนาคต และสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัท
อย่างไรก็ดี เมื่อ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) กับ OQ เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในโครงการ DIPWP และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Marafiq เป็น 49% และอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) ต่อไป