“ศิริ” จัดโซนนิ่งขาย “ดีเซลยูโร 5” ลดฝุ่นพิษ
ก.พลังงาน ออก 3 มาตรการเร่งด่วน ลดปัญหาฝุ่นพิษ จัดโซนนิ่งขายน้ำมันในเขตชุมชน และเมืองใหญ่ พร้อมกำหนดใช้น้ำมันดีเซลยูโร 5 ทั่วประเทศในปี 66
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เพื่อเร่งรัดมาตรการลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานหรือ PM 2.5 โดยเร็วและยั่งยืน กระทรวงพลังงาน จึงได้จัดการประชุมร่วมกับผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน ในการพิจารณามาตรการร่วมมือกันลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากรถยนต์ ซึ่งได้ข้อสรุปยืนยันว่า ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในประเทศทั้ง 6 ราย พร้อมที่จะผลิตน้ำมันดีเซลคุณภาพยูโร 5 ได้ทั้งหมดภายในปี 2566 โดยในระหว่างที่ยังไม่สามารถผลิตน้ำมันดีเซลคุณภาพยูโร 5 ได้เพียงพอ ก็จะร่วมมือกันในมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
1.พิจารณาหามาตรการสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ ที่มีความพร้อมในการผลิตน้ำมันดีเซลคุณภาพยูโร 5 ซึ่งมีอยู่ 2 โรงกลั่น คือ บางจาก และ ปตท.ให้จำหน่ายน้ำมันดีเซลคุณภาพยูโร 5 อย่างแพร่หลาย ในราคาไม่แพงเกินไป
2.ศึกษาแนวทางการปรับลดสัดส่วนกำมะถันในน้ำมันดีเซล มาตรฐานยูโร 4 พิเศษ ให้มีค่ากำมะถันในน้ำมันดีเซลต่ำลงเหลือประมาณ 30 พีพีเอ็มซัลเฟอร์ จากค่ามาตรฐานเดิม 50 พีพีเอ็มซัลเฟอร์ ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น สามารถลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 10-15 % คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ โดยรัฐบาลได้มีมาตรการ ช่วยลดภาระ ด้านการเงิน ให้โรงกลั่นน้ำมันในการปรับปรุงค่ากำมะถัน ด้วยการลดปริมาณสำรองน้ำมันลงจาเดิม 6 % เหลือ 1-2 % เป็นต้น
3.เร่งรณรงค์เพิ่มการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ให้มากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่มีการใช้เฉพาะในกลุ่มรถบรรทุก รถโดยสารขนาดใหญ่ และเรือโดยสารสาธารณะ ก็จะขยายไปยังรถขนส่งขนาดเล็ก เช่น รถกระบะ ในรุ่นที่ใช้ B20 ได้ และ ขยายการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในสถานีบริการทั่วไป จากเดิมมีเพียง 10 สถานี ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการช่วยรักษาสมดุลย์ราคาปาล์มน้ำมัน และช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับความต้องการใช้น้ำมันดีเซลภายในประเทศมีประมาณ 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน ทั้ง 2 โรงกลั่นคือ ปตท.และบางจากผลิตได้ 500 ล้านลิตรต่อเดือน หรือประมาณ 25 % เท่านั้น โดยอาจจะจัดโซนนิ่งในการจำหน่ายน้ำมันดีเซลคุณภาพยูโร 5 ในเขตชุมชนที่มีการจราจรจะหนาแน่น เช่น กรุงเทพและปริมณฑล เมืองใหญ่ เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ และเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา เป็นต้น โดยจะจำหน่ายในราคาไม่แพง ซึ่งน่าจะสามารถลดราคาได้มากกว่า 1 บาท อย่างยั่งยืน จากปัจจุบันที่สถานีบริการน้ำมันได้ประกาศลดราคาลง 1 บาท ซึ่งจะสิ้นสุดลงภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้