GPSC ทุ่ม 2.41 หมื่นลบ.ซื้อ ERU ไทยออยล์
บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) อนุมัติให้บริษัท หรือบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ของบริษัท เข้าลงทุนในโครงการ Energy Recovery Unit
โดยการเข้าซื้อหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit:ERU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ของบมจ.ไทยออยล์ (TOP) เพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการ ERU จากไทยออยล์ โดยมีมูลค่าเทียบเท่าทั้งสิ้นไม่เกิน 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าในสกุลเงินบาทประมาณ 24,113 ล้านบาท เมื่อโครงการ ERU ก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้รับหนังสือรับรองผลงาน (Provisional Acceptance Certificate : PAC) ภายใต้โครงการ CFP เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทคาดว่าการดำเนินการก่อสร้างโครงการ ERU จะแล้วเสร็จ และได้รับ PAC ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566
รวมทั้งเข้าทำสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สัญญาซื้อขายทรัพย์สิน สัญญาจัดหาเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค สัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาดำเนินการและบำรุงรักษา และสัญญาเช่าช่วงที่ดิน (รวมเรียกว่า สัญญาที่เกี่ยวข้อง) ตลอดจนสัญญาการรับโอนสิทธิและหน้าที่ และสัญญาอื่นใดที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการขายทรัพย์สินเพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์ใน Energy Recovery Unit และการเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องดังกล่าวกับไทยออยล์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดยถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
การเข้าทำธุรกรรมในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ให้ความสำคัญในการขยายการลงทุนตามแนวทางกลยุทธ์เติบโตพร้อมกับกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจในการผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภคที่ใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทหรือบริษัทย่อยจะเข้าลงนามในสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ERU ภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ภายในเดือนเมษายน 2562
โครงการ ERU เป็นหน่วยสนับสนุนสาธารณูปโภคของโครงการ CFP ของไทยออยล์ โดยโครงการ ERU เป็นหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำเพื่อป้อนให้กับกระบวนการผลิตของโครงการ CFP ซึ่งโครงการ ERU ใช้เชื้อเพลิงหลักคือ กากน้ำมัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการกลั่นของโครงการ CFP โดยโครงการ ERU มีกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ติดตั้งประมาณ 250 เมกะวัตต์ (MW) และ 175 ตันต่อชั่วโมง ตามลำดับ
สำหรับแหล่งเงินลงทุนในโครงการ ERU บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในของบริษัท และ/หรือ จะจัดหาแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม เช่น การจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงิน
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC กล่าวว่า การพัฒนาหน่วยผลิตไฟฟ้าหรือ ERU ดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการผ่านบริษัทย่อยที่ GPSC ถือหุ้น 100% ส่วนพื้นที่ตั้ง ERU จะเป็นสัญญาเช่าช่วงจากไทยออยล์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างหลังมีการลงนามในสัญญา โดยก่อสร้างจะใช้ระยะเวลาประมาณ 58 เดือน หรือคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3 ปี 2566 ซึ่งแผนลงทุนครั้งนี้ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่ม ปตท. สร้างโอกาสการต่อยอดธุรกิจการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต