“สนพ.” ปิดเวทีสัมมนา ชู สมาร์ทกริด ช่วยยกระดับ 3 ด้าน
สนพ.ปิดท้ายเวทีสัมมนา “สมาร์ทกริด” จ.สุราษฎร์ธานี ชู สมาร์ทกริดช่วยยกระดับ 3 ด้าน ความสามารถระบบไฟฟ้า คุณภาพบริการที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า และโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริดถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งนโยบายการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดประเทศไทย ระยะยาว 20 ปี ( พ.ศ. 2558 – 2579) โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะเตรียมการ (พ.ศ. 2558 – 2559) ระยะสั้น (พ.ศ. 2560 – 2564) ระยะปานกลาง (พ.ศ. 2565 – 2574) และระยะยาว (พ.ศ. 2575 – 2579) เพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าที่มั่นคงและเพียงพอ
“เทคโนโลยีสมาร์ทกริด จะเข้ามามีบทบาทส่งเสริมการพัฒนาในภาพรวมของอุตสาหกรรมไฟฟ้า รวมทั้งพัฒนาตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ระบบไฟฟ้าปฏิบัติงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง ทั้งยังช่วยยกระดับความสามารถของระบบไฟฟ้า (Smart System) ยกระดับคุณภาพบริการที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า (Smart Life) ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนมีความสะดวกสบายมากขึ้นจากเทคโนโลยีการใช้พลังงานในอนาคต และ ยกระดับโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Society) ทำให้ระบบไฟฟ้าสามารถรองรับการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนที่จะเข้าสู่ระบบไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต”
สำหรับการขับเคลื่อนแผนพัฒนาสมาร์ทกริดในระยะสั้น ( ช่วง พ.ศ.2560 – 2564 ) นี้เป็นการเริ่มทำโครงการนำร่องด้านสมาร์ทกริด พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจในภาคประชาชน ซึ่ง สนพ.ได้จัดให้มีกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อ “สมาร์ทกริด (Smart Grid) ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อเมืองอนาคต” ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากกรุงเทพมหานคร กระจายสู่จังหวัดต่าง ๆ โดยในวันนี้ (11 มี.ค.63) จัดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการการใช้พลังงานทั้งในระดับประเทศและมีความใกล้ตัวกับประชาชนทุกภาคส่วน