WHAUP ปลื้มลูกค้าโซลาร์รูฟ เพิ่มขึ้น
WHAUP ระบุ ผลงานไตรมาส 4 ปี 61 สดใส ลูกค้าทยอยเซ็นสัญญาติดตั้ง Solar Rooftop และจ่อเซ็นสัญญาอีกหลายราย รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ เอ็นจีดี 2 เริ่มเดินเครื่อง ส่วนโครงการสาธารณูปโภคในเวียดนาม เริ่มผลิตปี 62
นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 443.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2 % เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 547.3 ล้านบาท ลดลง 1.2 % โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 124.9 ล้านบาทในไตรมาส 3/2561 และ 119.7 ล้านบาทในไตรมาส 3/2560 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน631.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 577.4 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 1,288.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4 % เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 1,453.4 ล้านบาท ลดลง 2.5 % เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 60.2 ล้านบาทใน 9 เดือนแรกปี 2561 และ 458.6 ล้านบาทใน 9 เดือนแรกปี 2560 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,643.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 1,654.1 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
” สำหรับการเติบโตเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานในงวดที่ผ่านมา เป็นผลมาจากปริมาณการใช้น้ำของลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมและจากการขยายตัวของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าที่มีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯอยู่ที่ 511 เมกะวัตต์ “
นายวิเศษ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 4/2561 มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งจากธุรกิจสาธารณูปโภค ที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น และจากธุรกิจพลังงานจากการทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการ Solar Rooftopและธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่าอัตราการเติบโตของรายได้ทั้งปีจะมีแนวโน้มขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบจากปีก่อน
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการให้บริการติดตั้งแผง Solar Rooftop ให้กับลูกค้า ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ว่ายังคงมีเข้ามาต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมาก ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 1.4 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกจำนวน 6.5 เมกกะวัตต์ และที่อยู่ระหว่างการเจรจาและรอเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีกประมาณ 2.1 เมกะวัตต์ ดังนั้นในปีนี้คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาให้บริการ Solar Rooftop จำนวนทั้งสิ้น 10เมกะวัตต์ ตามแผน
สำหรับธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 จะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 ได้ภายในไตรมาส 4/2561 นี้ ขณะที่โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2562
ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคในประเทศเวียดนามนั้น ซึ่งบริษัทฯได้สิทธิในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ เหงะอาน ที่ประเทศเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2562.