สุรศักดิ์ เผย “เอเชียใต้-แอฟริกา” ต้องการ LPG เพิ่มขึ้น
สหมิตรถังแก๊ส เผยผลงาน 9 เดือน ยอดขาย 3,592 .60 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 18.83% จากความต้องการถังแก๊ส LPG เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียใต้และทวีปแอฟริกา เตรียมขยายกำลังการผลิตอีก 1.2 – 2.5 ล้านใบต่อปี ภายใน 3-5 ปีหน้า
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯงวดไตรมาส 3/2561 มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,155.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.6% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,126.00 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/2561 จำนวน 172.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 157.22 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลง สุทธิด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
” ผลงาน Q3/61 ที่ออกมาอยู่ระดับใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 262.74 ล้านบาท ลดลง 4.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 274.21 ล้านบาท จากต้นทุนวัตถุดิบประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศ ทำให้อัตราการทำกำไรลดลง “ นายสุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2561 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 3,592.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,128.02 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 452.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.83%จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 381.12 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ SMPC มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก โดยปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมใหม่ในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านใบต่อปี จากเดิม 8.2 ล้านใบ และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาส 4/2561 นี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทฯตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1.2 – 2.5 ล้านใบ/ปี ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการใช้แก็ส LPG ในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศ
” แนวโน้มธุรกิจในอนาคต เชื่อว่ายังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้แก็ส LPG ที่ค่อนข้างสูง ในภูมิภาคเอเชียใต้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงหุงต้มมาเป็น LPG และความต้องการที่สูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น รวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีการเปลี่ยนมาใช้ LPG แทนฟืนและน้ำมันก๊าด ซึ่งประเทศดังกล่าวนี้เป็นลูกค้าหลักของ SMPC โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้น 15-20% ทุกปี
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในเรื่องค่าเงินบาทและแนวโน้มราคาเหล็กในตลาด ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัท แต่ ด้วยอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น เกิด economy of scale ที่สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตลง ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ “ นายสุรศักดิ์กล่าว