“เอ็กโก” ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ปี 2563
“เอ็กโก กรุ๊ป” ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ปี 2563 รับการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจพลังงาน มุ่ง เป็นบริษัทไทย ชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน เผย กำไรปี 2562 พุ่งแตะ 13,059 ล้านบาท เล็งปันผล ครึ่งปีหลัง 3.25 บาท
นายกัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่าในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงการลงทุนในโครงการใหม่ และ ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งเป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมุ่งการผลิตและให้บริการด้านพลังงาน ครอบคลุมการผลิต และแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่า ตลอดจนเปิดกว้างการลงทุน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะขยายการลงทุนในประเทศที่มีฐานอยู่แล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้
นอกจากนั้นจะเจาะตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น ไต้หวัน เป็นต้น และต่อยอดไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ การจัดหาเชื้อเพลิงและการให้บริการด้านพลังงาน รวมทั้งยังแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เช่น Smart Energy Solution
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดและภายใต้งบประมาณที่วางไว้
สำหรับผลประกอบการ ปี 2562 มีกำไรสุทธิ จำนวน 13,059 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8,014 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ เท่ากับบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลตลอดปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 6.50 บาท
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้แล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนด รวมทั้งการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนด 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าถ่านหิน “ซานบัวนาเวนทูรา” ประเทศฟิลิปปินส์ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “ไซยะบุรี” สปป.ลาว เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562
ด้านการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า 2 โครงการ ได้แก่ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง “กังดง” ประเทศเกาหลีใต้ กำลังผลิต 19.80 เมกะวัตต์ ผ่านบริษัท พาจู เอ็นเนอร์ยี่ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เอ็กโกถือหุ้นร้อยละ 49 และการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นร้อยละ 25 เพื่อขยายการลงทุน ในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล “หยุนหลิน” ในไต้หวัน กำลังผลิต 640 เมกะวัตต์
การขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง 1 โครงการ ได้แก่ การลงทุนด้วยการซื้อหุ้นร้อยละ 44.60 ในบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เพื่อดำเนินโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง “กังดง” ประเทศเกาหลีใต้ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 82.45 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2563 และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “น้ำเทิน 1” สปป.ลาว ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 66 ซึ่งคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2565 นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่เป็นธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 22.15 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2564.