“บีซีพีจี” ลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้าเชื่อม CLMV
เมื่อเร็วนี้ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการขยายธุรกิจพลังน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมืองเชียงขวาง เป็นแห่งที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในลาวเพิ่มเป็น 114 เมกะวัตต์
นอกจากนั้นยังได้เข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตร ก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเวียดนาม เพื่อรองรับการจำหน่ายไฟให้การไฟฟ้าเวียดนามขนาด 500 เมกะวัตต์ หลังเปลี่ยนสัญญาจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าลาว เป็นการไฟฟ้าเวียดนามในปี 2565 ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV นั้น
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เผยว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B Power Sole Co., Ltd. ระหว่างบริษัท บีซีพีจี อินโดไชน่า จำกัด (BIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบีซีพีจี ดำเนินกิจการลงทุนโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV กับบริษัท Phongsubthavy Roads and Bridges Construction and Irrigation (PSG)
ทั้งนี้การลงนามสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 ที่อนุมัติให้ BIC เข้าซื้อหุ้นทั้งหมด ใน Nam San 3B Power ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียนจัดตั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้า 27 ปี นับตั้งแต่วันเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อ 25 สิงหาคม 2558
นอกจากนี้ โครงการ Nam San 3B ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (EVN) เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ EVN แทนการขายไฟฟ้าให้กับ EDL เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ทำให้ Nam San 3B ได้รับการขยายเวลาจำหน่ายไฟฟ้าจากปี 2585 เป็นปี 2590 เช่นเดียวกับโครงการ Nam San 3A ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี บีซีพีจี จะใช้เงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B รวมทั้งสิ้น 113 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,447 ล้านบาท โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเริ่มรับรู้รายได้ทันทีหลังการเข้าลงทุน
นายบัณฑิต ยังบอกว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท BIC ร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท PSG ในการก่อสร้าง และดำเนินการกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า จากโครงการ Nam San 3A และ Nam San 3B ไปยังจุดเชื่อมต่อที่ชายแดนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยสายส่งดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 79 กิโลเมตร สามารถรองรับการขายไฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้กว่า 500 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน PSG อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอีกกว่า 400 เมกะวัตต์ เพื่อเชื่อมต่อกับสายส่งนี้ และจำหน่ายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้มีสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว ภายใต้กรอบสัญญาระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ
สำหรับเงินลงทุนในการก่อสร้างและดำเนินการกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า ในเบื้องต้นอยู่ที่ 10.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 305 ล้านบาท
“การลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ อาทิสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และขายไฟฟ้าให้กับประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งจะช่วยทำให้รายได้ของบริษัทฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น”
นายบัณฑิต บอกว่า การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศใกล้เคียง ที่ต้องการผู้ร่วมทุนที่มีความพร้อมในการลงทุน และประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจที่มีมาตรฐานสากล นับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV ให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้