ค้านทีโออาร์“บงกช-เอราวัณ”
หมอระวี คัดค้านทีโออาร์ ประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ ร้องรัฐบาลแก้ไขโดยใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตและตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ ก่อนเปิดประมูล
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวคัดค้านทีโออาร์ที่จะใช้ในการประมูลแหล่งบงกชเอราวัณแหล่งบงกชเอราวัณในอ่าวไทย ซึ่งก่อนหน้านี้เอกชนได้สัมปทานมานานกว่า 40 ปีแล้ว และจะหมดอายุสัมปทานในปี พ.ศ.2565- 2566 นี้โดยที่ผ่านมาในระบบสัมปทาน ประเทศไทยได้รายได้เป็นค่าภาษีและค่าภาคหลวงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งทั้ง 2แหล่งนี้ ผลิตปิโตรเลียมมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี สร้างรายได้ให้เอกชนจำนวนมหาศาล
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า เดิมรัฐบาลแถลงว่าจะทำการประมูลในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยทีโออาร์เป็นระบบแบ่งปันผลผลิตแต่ปิโตรเลียมที่ได้ให้เอกชนเป็นผู้นำไปขายและมีระยะสัญญาใหม่ 36 ปี ได้มีเอกชน 5 บริษัทได้ยื่นความจำนงจะเข้าประมูล ปรากฏว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเร่งกำหนดการรับซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือนและจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้เลย โดยมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าที่เร่งประมูล เพราะเรื่องผลประโยชน์หรือไม่
“ปัญหาคือทีโออาร์ของกระทรวงพลังงานที่จะใช้ในการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่ทีโออาร์ที่จะทำให้ประเทศได้รับรายได้ที่สูงสุด สำหรับแหล่งปิโตรเลียมเมื่อครบอายุสัมปทานอุปกรณ์ทุกอย่างตกเป็นของประเทศ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้ทีโออาร์ในระบบสัญญาจ้างผลิตที่ประเทศจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดประมาณ 90% จาก 2 แสนล้านต่อปี และปิโตรเลียมที่ได้รัฐจะต้องตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติที่รัฐถือหุ้น 100 % ขึ้นมาเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ”นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า พรรคพลังธรรมใหม่จึงขอคัดค้านทีโออาร์อัปยศนี้และขอเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ออกไปก่อน และแก้ไขทีโออาร์ให้ใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตและตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติที่รัฐถือหุ้นให้เรียบร้อยก่อนจึงจะทำการประมูล ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้จากทีโออาร์คนละแบบนี้อาจจะมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี