โรงไฟฟ้าเขื่อนลำปะทาว จ่ายชดเชย 177 ลบ.
พพ. ร่วมดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชย ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 394 ราย วงเงิน 177,755,320 บาท
นายวันชัย บรรลือสินธุ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ได้อนุมัติหลักการเพื่อจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฯ จำนวน 394 ราย วงเงิน 177,755,320 บาท
และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนผู้แทนจาก พพ. ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ และคณะกรรมการฯ ได้มีมติในที่ประชุมกำหนดให้จ่ายเงินแก่ประชาชนดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 23 – 2
นายวันชัย บรรลือสินธุ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ได้อนุมัติหลักการเพื่อจ่าย
นายวันชัย บรรลือสินธุ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ได้อนุมัติหลักการเพื่อจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฯ จำนวน 394 ราย วงเงิน 177,755,320 บาท
และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนผู้แทนจาก พพ. ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ และคณะกรรมการฯ ได้มีมติในที่ประชุมกำหนดให้จ่ายเงินแก่ประชาชนดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 23 – 26 ธันวาคม 2562
สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้าห้วยประทาว พพ. ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ ใน ปี 2531 เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า และการชลประทาน ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน เกิดการใช้ประโยชน์จากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ กว่าปีละ 18.41 ล้านหน่วย ช่วยประหยัดเงินจากการนำเข้าพลังงานปีละ 25 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ด้านชลประทาน ที่สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรกว่า 27,000 ไร่ ให้ชาวชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้พลังงานสะอาด การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชุมชน
เงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฯ จำนวน 394 ราย วงเงิน 177,755,320 บาท
และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนผู้แทนจาก พพ. ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ และคณะกรรมการฯ ได้มีมติในที่ประชุมกำหนดให้จ่ายเงินแก่ประชาชนดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 23 – 26 ธันวาคม 2562
สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้าห้วยประทาว พพ. ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ ใน ปี 2531 เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า และการชลประทาน ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน เกิดการใช้ประโยชน์จากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ กว่าปีละ 18.41 ล้านหน่วย ช่วยประหยัดเงินจากการนำเข้าพลังงานปีละ 25 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ด้านชลประทาน ที่สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรกว่า 27,000 ไร่ ให้ชาวชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้พลังงานสะอาด การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชุมชน
6 ธันวาคม 2562
สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้าห้วยประทาว พพ. ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ ใน ปี 2531 เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า และการชลประทาน ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน เกิดการใช้ประโยชน์จากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ กว่าปีละ 18.41 ล้านหน่วย ช่วยประหยัดเงินจากการนำเข้าพลังงานปีละ 25 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ด้านชลประทาน ที่สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรกว่า 27,000 ไร่ ให้ชาวชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้พลังงานสะอาด การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชุมชน