โซล่าร์รูฟ เดลต้า ประหยัดไฟ 20 ลบ.คืนทุน 6 ปี
พพ. โชว์ความสำเร็จ โซลาร์รูฟท็อป บริษัท เดลต้า กำลังการผลิต 3.2 MV หนึ่งในต้นแบบโรงงานพลังงานสะอาด ประหยัดค่าไฟมากกว่า 20 ล้านต่อปี คืนทุนภายใน 6 ปี
นายสุรีย์ จรูญศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวภายหลัง เยี่ยมชมโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ โซลาร์รูฟท็อป ของ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 3.2 เมกะวัตต์ ว่า บริษัท เดลต้า ได้พัฒนาการนำระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์รูฟท็อป เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการด้านพลังงานภายในโรงงาน ซึ่ง ได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วหลายโรงงาน ขนาดกำลังการผลิตรวม 6.3 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จากการศึกษาและลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป ของบริษัท เดลต้า ในครั้งนี้ พบว่ามีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ในโรงงานที่ 5 ขนาดกำลังการผลิต 3.2 เมกะวัตต์ จำนวนแผงโซลาร์เซลล์ 18,347 แผ่น บนพื้นที่หลังคากว่า 22,532 ตารางเมตร สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 4,675,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ประหยัดเงินได้มากกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ด้วยมูลค่าการลงทุน 125 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถคืนทุนภายใน 6 ปี นับเป็นต้นแบบของเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียนในการติดตั้งระบบ โซลาร์รูฟท็อป ขนาดใหญ่ในสถานประกอบการ
นายสุรีย์ กล่าวว่า โครงการนี้นับเป็นต้นแบบของภาคอุตสาหกรรม ที่ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ที่สอดรับกับนโยบายพลังงานของประเทศในด้านการส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนในสถานประกอบการ ซึ่งเป็นภาคที่มีการใช้ไฟฟ้าสัดส่วนที่สูง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งส่งเสริมให้เกิดการนำพลังงานทดแทนไปใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่จะนำไปสู่การปรับตัวและยกระดับการเป็นสมาร์ท แฟคทอรี่ (Smart Factory) ที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานมาปรับใช้ในการผลิตพลังงานสะอาด รวมถึงยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงานและแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ของกระทรวงพลังงานให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2580
ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง โซลาร์เซลล์บนหลังคา มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจในการลงทุนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ พพ.และกระทรวงพลังงาน ที่มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านพลังงานภายในสถานประกอบการ เพื่อการผลิตไฟฟ้าใช้เองได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงการพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในสถานประกอบการ สำนักงาน อาคารธุรกิจ และโรงงาน.