CEO GC ยึด 3 Steps สานต่อ ปิโตรเคมี
CEO GC เดินหน้ากลยุทธ์ 3 Steps สานต่อโครงการปิโตรเคมี ต่อยอดธุรกิจสู่ระดับโลก และยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และนวัตกรรมด้าน Green มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจ ว่า GC จะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 3 Steps ประกอบด้วย Step Change: สานต่อสร้างบ้านให้แข็งแรง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับฐานการผลิตปัจจุบัน ที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่ม Plant Reliability ให้อยู่ในระดับ 1st Quartile และ ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจด้วยการขยายเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำและ High Value Business รวมถึงการขยายตลาดในภูมิภาค South East Asia
Step Out: การหาฐานธุรกิจแห่งที่ 2 (Second Home Base) อาทิ โครงการศึกษาการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพความเป็นต่อด้านวัตถุดิบ (Feedstock) ต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ด้วย Mergers and Acquisitions (M&A) สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
Step Up: สานต่อแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และต่อยอดบูรณาการให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) ในทุกธุรกิจ
ปัจจุบัน GC มีการลงทุนในโครงการหลักมูลค่าการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naphtha Cracker เพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯ มีอยู่แล้ว ต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน 500,000 ตันและ โพรพิลีน 250,000 ตัน อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณ 73% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 มูลค่าโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท
โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) และ โครงการโพลีออลส์ (Polyols) เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) 200,000 ตันต่อปี และผลิตภัณฑ์โพลีออลส์ (Polyols) 130,000 ตันต่อปี มีมูลค่าโครงการประมาณ 34,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการเป็นต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน (Polyurethane) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ High Value Business ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการ PO คืบหน้าไปแล้ว 79% และโครงการโพลีออลส์ คืบหน้าไปแล้ว 77% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563
โครงการร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูงใน 2 โครงการ ได้แก่ PA9T 13,000 ตัน/ปี และ HSBC 16,000 ตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายเกรดพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) และ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E) ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด (KGC) มูลค่าโครงการประมาณ 15,000 ล้านบาท
โครงการพลาสติกรีไซเคิล เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางด้าน Circular Economy ของ GC โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว มาเป็นวัตถุดิบในกระบวนการ Recycle ได้เม็ดพลาสติกคุณภาพสูงระดับ Food-Grade และ Packaging-Grade
ร่วมมือกับพันธมิตร แอลพลา (ALPLA) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับโลก ปฏิวัติการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO Limited) ที่นิคมเอเชีย มาบตาพุด จังหวัดระยอง เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนคุณภาพสูง ชนิด rPET ขนาด 30,000 ตันต่อปี และ rHDPE ขนาด 15,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปี 2563 และคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2564 มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท
โครงการศึกษาการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความได้เปรียบในด้านความสามารถในการแข่งขันทางด้านวัตถุดิบ นั้นคือมีแหล่งวัตถุดิบ Ethane ซึ่งมีต้นทุนที่มีความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปี 2563 จะได้ผลสรุปเพื่อตัดสินใจในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ GC อยู่ในระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ของโครงการเช่น เงื่อนไขสัญญาการก่อสร้างโครงการ และการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ เป้าหมายเพื่อเป็น Second Home Base ของบริษัทฯ นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นเพื่อสร้างความยั่งยืน ด้านการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และ การนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้.