GPSC เพิ่มทุน 7.4 หมื่นลบ.จ่อเบอร์ 3 ผู้ผลิตไฟฟ้า
GPSC ออกหุ้นเพิ่มทุน 74,000 ล้านบาท รองรับแผน 5 ปี เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 5,400 MW หวังขยับเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 3 ของประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้าง Synergy ธุรกิจหลังรวมกิจการ GLOW
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2562 อนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวงเงิน 74,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น รองรับการขยายการลงทุนในอนาคต
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,321.43 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering: RO) ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 0.8819 หุ้นใหม่ สำหรับส่วนลดแก่ผู้ถือหุ้นประมาณ 20% ซึ่งทำให้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเท่ากับ56 บาทต่อหุ้นนั้น คิดจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 30 วันทำการ ก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2562 (ระหว่าง 13 มิ.ย.- 25 ก.ค. 2562) ให้เสนอวาระดังกล่าวต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา ซึ่งเท่ากับประมาณ 70 บาท (ข้อมูลจากSETSMART ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) โดยจะเสนอในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562พิจารณาอนุมัติในวันที่ 28 ส.ค. 2562 โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) วันที่ 4 ก.ย. 2562 และเปิดให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 30 ก.ย.– 4 ต.ค. 2562
ส่วนเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น (Bridge Financing) จากสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)) ที่บริษัทฯ ใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และเพื่อเป็นการรักษาระดับอัตราส่วนทางการเงินให้เทียบเคียงได้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม และรองรับแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2562-2566) ในโครงการปัจจุบันและอนาคต ในการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากปัจจจุบันที่มีอยู่ 4,986 เมกะวัตต์ เป็น 5,400 เมกะวัตต์ ซึ่ง GPSC ตั้งเป้าหมายจะขยับจากผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 4 เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ภายใน 5ปีนี้
สำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายหลังรวมกิจการ GLOW นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการ Synergy ในด้านต่างๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการด้านต้นทุน การพัฒนาบุคลากร แผนเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ แผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า และ แผนการจัดหาอุปกรณ์เพื่อการซ่อมบำรุง รวมถึงความพร้อมในการรองรับการให้บริการในด้านต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการลงทุนของผู้ประกอบการในโครงการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
“ทั้ง GPSC และ GLOW ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิด Synergy สูงสุดในด้านต่างๆ ทั้งการผลิต ต้นทุน บุคลากร การขยายโครงข่ายการให้บริการ ฯลฯ ให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศ มีส่วนหนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน” นายชวลิตกล่าว
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต มุ่งดำเนินงานตามยุทธศาสตร์หลักประกอบด้วย 1.การเติบโตพร้อมกลุ่ม ปตท. 2.การขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และ 3.การพัฒนาธุรกิจใหม่
ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 4,986 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกหลายโครงการที่จะเริ่ม COD ในปีนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำลิก 1 (NL1PC) ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า ไซยะบุรี (XPCL)กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ และศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จังหวัดระยอง แห่งที่ 4 (CUP-4) กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี2563 2564 และ 2566 ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้านวนคร ส่วนขยาย (NNEG Expansion) โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF และหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU (Energy Recovery Unit) ตามลำดับ