น้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง 2.13 ดอลล่าร์
ไทยออยล์ เผยบทวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน ระบุ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.13 ดอลลาร์ หรือ 4% เนื่องจากกังวลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและอุปสงคน้ำมันโลกอ่อนตัว
บทวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2562 เผยว่า ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลงราวร้อยละ 4 หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย. 62 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์ มาอยูที่ระดับ 485.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ก.ค. 60
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันโลกที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ที่คาดวาจะเติบโตช้าลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดย EIA ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2562 ลง 160,000 บาร์เรลตอวัน มาอยูที่ระดับ 1.22 ล้านบาร์เรลตอวัน
ขณะที่ Goldman Sachs คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ยังไมคงที่ของอิหร่านจะเป็นปัจจัยหนุนให้โอเปกตัดสินใจขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไป
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา (12 มิ.ย.62) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.13 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 51.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ดิ่งลง 2.32 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 59.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 481,000 บาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 380,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 704,000 บาร์เรล.