กมธ.การพลังงาน ติง! กองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ ยังพิจารณาโครงการกระจุกตัวแน่นอยู่ในบางพื้นที่ ปี 65 เร่งสร้างความเข้าใจประชาชนรากหญ้า
“กมธ.การพลังงาน ติง! กองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานฯ พิจารณาโครงการขอรับสนันสนุนยังเหลื่อมล้ำ แต่ละภาคงบกระจายไม่ทั่วถึง แนะ “พลังงานจังหวัด” เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนถึงระเบียบการเสนอโครงการ ปี 2564 พบปัญหาอุปสรรคการพิจารณาโครงการ อื้อ! โดยเฉพาะเงื่อนไขการขอรับการสนับสนุนไม่ตรงตามระเบียบ”
นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร, นายธารา ปิตุเตชะ รองประธานฯ, นายสมเกียรติ วอนเพียร รองประธานฯ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ และคณะกรรมาธิการ ประชุมคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ 69 ได้ทำการพิจารณาเรื่อง “ความคืบหน้าผลการดำเนินงานของการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564” โดยเชิญผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และผู้แทนสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 และแผนการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน มีวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 6,305 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงานตามกฎหมาย งบประมาณ 200 ล้านบาท, กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานทดแทน งบประมาณ 500 ล้านบาท, กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ งบประมาณ 355 ล้านบาท, กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูลข่าวสาร งบประมาณ 200 ล้านบาท, กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร งบประมาณ 450 ล้านบาท, กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก (SMEs) อาคารบ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษงบประมาณ 2,200 ล้านบาท และกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก งบประมาณ 2,400 ล้านบาท
ผลการพิจารณาโครงการ ในส่วนของกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณจังหวัดละ 25 ล้านบาท กรอบวงเงิน 1,900 ล้านบาท มีโครงการที่ขอรับการสนับสนุน จำนวน 939 โครงการ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ คิดเป็นวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,099,905,986 บาท และมีโครงการที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุน จำนวน 716 โครงการ คิดเป็นวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 667,716,162 บาท
กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท จำนวน 461โครงการ ประกอบด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มีโครงการที่ขอรับการสนับสนุน คิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 671,618,694 บาท มีโครงการที่ควรได้รับการสนับสนุน จำนวน 372 โครงการ คิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 503,370,000 บาท
การดำเนินงานการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 พบปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงาน ดังนี้ 1.ชื่อหน่วยงานผู้ขอรับการสนับสนุนที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) แจ้งมายังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานไม่ตรงกับหน่วยงานที่ยื่นข้อเสนอโครงการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยงานที่ยื่นข้อเสนอโครงการใช้ชื่อโครงการไม่ตรงกับที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ แจ้งมายังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
หน่วยงานที่ยื่นข้อเสนอโครงการโดยแยกเป็นระบบ/เทคโนโลยี ในขณะที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการรวมระบบ/เทคโนโลยี เพื่อให้หน่วยงานใช้ในการยื่นข้อเสนอโครงการ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพียง 1 โครงการ
หน่วยงานที่ยื่นข้อเสนอโครงการโดยรวมระบบ/เทคโนโลยี ในขณะที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการแยกระบบ/เทคโนโลยีเพื่อให้หน่วยงานใช้ในการยื่นข้อเสนอโครงการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 5.หน่วยงานยื่นข้อเสนอโครงการโดยแสดงงบประมาณไม่ตรงกับที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการแจ้งมายังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานท 6.หน่วยงานยื่นข้อเสนอโครงการโดยเพิ่มระบบและวงเงินที่ขอรับการสนับสนุนเกินกว่า ที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการแจ้งมายังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
หน่วยงานยื่นข้อเสนอโครงการโดยเพิ่มเทคโนโลยีและวงเงินที่ขอรับการสนับสนุนเกินกว่าที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการแจ้งมายังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 8.หน่วยงานยื่นข้อเสนอโครงการผ่านระบบอิเล็ก ทรอนิกส์ซ้ำกันหลายครั้ง และ9.ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนไม่สามารถมาลงนามในหนังสือยืนยันได้โดยตรงกับสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ทำให้เกิดความล้าช้าในการลงนาม
ในส่วนของการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานนั้น มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว
ตามภารกิจของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเท่านั้น เช่น กลุ่มงานกฎหมาย กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดเล็ก (SMEs) อาคารบ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของบริษัทเอกชนที่มีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจะมีการเสนอขอรับงบประมาณผ่านกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
จากการพิจารณาดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในการพิจารณาโครงการในส่วนของกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กรอบวงเงินจังหวัดละ 25 ล้านบาท และภายใต้กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท นั้น “การกลั่นกรองข้อเสนอโครงการดังกล่าวในแต่ละภาคพบว่ามีความเหลื่อมล้ำในการพิจารณากลั่นกรอง ทำให้การจัดสรรงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในแต่ละจังหวัดของแต่ละภาคไม่ได้มีการกระจายงบประมาณอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ ในส่วนของการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานดังกล่าวพบว่า ที่ผ่านมาบางจังหวัดไม่ได้เสนอขอรับงบประมาณ บางจังหวัดเสนอขอรับงบประมาณเกินกว่ากรอบวงเงินงบประมาณที่กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานกำหนดไว้ ทำให้การพิจารณาโครงการในแต่ละภาคมีสัดส่วนของโครงการที่ควรได้รับการสนับสนุนแตกต่างกัน
ในส่วนของการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการการอนุรักษ์พลังงานควรมีการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้ครอบคลุมทุกจังหวัดเพื่อให้เกิดการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การกำหนดเงื่อนไขในการขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานดังกล่าวควรตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละภาค เพื่อให้โครงการที่ขอรับการสนับสนุนดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
พร้อมกันนั้นทางกระทรวงพลังงาน และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานควรมีการประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงการส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้ เกิดความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างๆ ที่ต้องทำโครงการเพื่อเสนอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนฯ พลังงานจังหวัดต่างๆ ถือว่าเป็นหน่วยหลักหลักที่ต้องให้ความรู้ สร้างความเข้าใจให้พี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ กฎระเบียบ เงื่อนไขของโครงการที่เสนอมาในกรอบของกฎระเบียบที่กองทุนกำหนด