กฟผ. ผนึก ปตท.ลุย LNG Hub

กฟผ. จับมือ ปตท. ลงทุนโครงการ LNG Receiving Terminal รองรับ ศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในภูมิภาคอาเซียน
หลังจาก ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อ 1 เมษายน 2564 เห็นชอบ แนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า PDP 2018 (Rev.1) ระบบท่อส่งก๊าซฯ และ LNG Terminal
โดยให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับรูปแบบการลงทุนจากโครงการ FSRU ในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน (F-1) เป็นการร่วมลงทุนกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 50 : 50 ในโครงการ LNG Receiving Terminal (แห่งที่ 2) ตำบลหนองแฟบ จังหวัดระยอง ขนาด 7.5 ล้านตันต่อปี (MTPA) ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 20,000 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อ 30 มิถุนายน 2564 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าฯ กฟผ. ร่วมกับ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมลงทุนโครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) (แห่งที่ 2) ตำบลหนองแฟบ จังหวัดระยอง แล้ว
อย่างไรก็ดีที่ปรึกษา กฟผ. กำลังเร่งดำเนินการประเมินมูลค่าโครงการดังกล่าว เพื่อกำหนดเงินการลงทุนในส่วนของ กฟผ. ให้มีความที่ชัดเจนมากขึ้น
ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2564 ก่อนเสนอขออนุมัติจาก ครม. จากนั้นจะดำเนินการ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ต่อไป
โครงการ LNG Receiving Terminal หนองแฟบ เป็นคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซ LNG แห่งที่ 2 ของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นต่อจาก LNG Receiving Terminal มาบตาพุด จ.ระยอง ของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) โดยมีมูลค่าการลงทุน 38,500 ล้านบาท เริ่มก่อตั้งในปี 2562 และมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2565 เพื่อรองรับการนำเข้า LNG 7.5 ล้านตันต่อปี
โดย กฟผ. จะเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วน 50 : 50 และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกัน ทำให้ขยายขีดความสามารถในการนำเข้า LNG ของประเทศไทย จากเดิม 11.5 ล้านตันต่อปี เพิ่มเป็น 19 ล้านตันต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศในอนาคต และรองรับเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในภูมิภาคอาเซียน (Regional LNG Hub) ตามนโยบายของรัฐบาล