SENA ขยายฐานลูกค้า บุก ตลาดโซลาร์รูฟท็อป
SENA บุก ตลาดโซลาร์ ขยายฐานทลูกค้า กลุ่มอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าในสถานีบริการน้ำมัน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10 %
ตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) มีการเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ผู้อยู่อาศัย และผู้ประกอบการธุรกิจมีเป้าหมายลดต้นทุนค่าพลังงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ปรับเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้า โครงการโซลาร์ ภาคประชาชน จากเดิม 1.68 บาทต่อหน่วยเป็น 2.20 บาท ต่อหน่วย เพื่อจูงใจและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาติดตั้งโซลาร์ฯใช้เองมากขึ้น
บริษัท เอท โซลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เห็นโอกาสนี้ จึงเข้ามาให้บริการเพื่อร่วมขับเคลื่อนพลังงานสะอาด โดยในปี 2564 เอท โซลาร์ มุ่งเน้นขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)ให้ครอบคลุมทั้งโครงการบ้านของเสนา จำนวน 150 หลังคาเรือนและภาคธุรกิจอื่นๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าในสถานีบริการน้ำมัน และโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เล่าถึงแผนการดำเนินงานของบริษัท เอท โซลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเสนา พร้อมกับบอกว่า ได้วางเป้าหมายการเติบโตรายได้เฉลี่ยปีละ 10% ซึ่งปีนี้วางกำลังผลิตติดตั้งรวมไม่ต่ำกว่า 5 เมกะวัตต์ โดยเน้นการติดตั้งที่มีคุณภาพและคัดเลือกโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่อยู่ในเกณฑ์ดี และพร้อมให้คำปรึกษาและบำรุงรักษา ทำความสะอาด ระบบโซลาร์ในโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าให้สูงสุดในราคาค่าบริการที่คุ้มค่าที่สุด ต่อผู้ใช้บริการอีกด้วย
นอกจากนั้น บริษัท เอท โซลาร์ ยังได้มีการวางแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเพื่อควบคุมต้นทุนของการติดตั้งทั้งระบบ
ซึ่งเรื่องนี้ นายสุธรรม โอฬารกิจอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอท โซลาร์ จำกัด เล่าว่า ได้นำอุปกรณ์การแปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ หรือที่เรียกว่าอินเวอร์เตอร์ (Inverters) ของบริษัท FIMER ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการอินเวอร์เตอร์จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง ABB ประเทศอิตาลีมาให้บริการผู้บริโภค
ขณะเดียวกันบริษัท เอท โซลาร์ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มค่าการใช้ไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกบ้านที่ทำงานนอกบ้านในช่วงเวลากลางวัน เพื่อให้เกิดประโยชน์การใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้อย่างสูงสุด ด้วยการจัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และ ช่วยรักษาความปลอดภัย มาติดตั้งเพื่อบริการให้ลูกบ้าน โดยจะมีการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคตต่อไป
ที่ผ่านมา บริษัท เอท โซลาร์ ได้ดำเนินการติดตั้งโครงการบ้านเสนาฯ และ ที่อยู่อาศัยต่างๆ ไปแล้วกว่า 400หลังคาเรือน รวมกำลังผลิตสำหรับที่อยู่อาศัย มากกว่า 1,000 กิโลวัตต์ รวมทั้ง ติดตั้งในสำนักงาน คลังสินค้า โรงงานขนาดใหญ่ กว่า 50 แห่ง รวมกำลังผลิตกว่า 16,000 กิโลวัตต์ และยังมีโซลาร์ฟาร์มที่เสนาลงทุนอยู่ขนาด 46,500,000 กิโลวัตต์ รวมถึงบริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่จะเข้าร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชนอีกประมาณ 237 หลังคาเรือน