บ้านปู ซื้อ โซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ ในออสเตรเลีย

บ้านปู ซื้อโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่ง ในออสเตรเลีย 2,332 ล้านบาท ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter สู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) บอกว่า บริษัท ได้เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 2 แห่ง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศกำลังการผลิตรวม 166.8 เมกะวัตต์ มูลค่า97.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ เทียบเท่า 2,332 ล้านบาทออสเตรเลีย ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เบอริล (Beryl หรือ BSF) กำลังการผลิต 110.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มานิลดรา (Manildra หรือ MSF) กำลังการผลิต 55.9 เมกะวัตต์
ผ่านหน่วยลงทุน Banpu Energy Hold Trust ที่จัดตั้งโดยบริษัท บ้านปู เอเนอร์จี ออสเตรเลีย จำกัด (Banpu Energy Australia Pty Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปู ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100 และ บริษัท บ้านปู รีนิวเอเบิล ออสเตรเลีย จำกัด (Banpu Renewable Australia Pty Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่บ้านปู ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 50
โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่โครงการแรกของบ้านปูในประเทศออสเตรเลีย นับเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานการลงทุนทั้งในเชิงกลยุทธ์ด้านพลังงานสะอาด และต่อยอดระบบนิเวศด้านพลังงานของบ้านปูในประเทศออสเตรเลีย ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ ผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ BSF กำลังการผลิต 110.9 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2562 และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ MSF กำลังการผลิต 55.9 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2561 ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ระดับ Tier-1 รวมถึงมีระบบหมุนตามแสงอาทิตย์ (Single Axis Tracking System) ส่งผลให้มีอัตราความสามารถในการผลิตเฉลี่ย (Capacity Factor) ในระดับที่ดี
รวมทั้งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีค่าการสูญเสียไฟฟ้า (Marginal Loss Factor หรือ MLF) ในระดับที่คงที่ เนื่องจากมีความพร้อมในระบบสาธารณูปโภค ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีเสถียรภาพในการรับรู้รายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
นอกจากนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ยังมีปริมาณความต้องการและการเติบโตของการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งของประเทศ ผ่านตลาดซื้อขายไฟฟ้าแห่งชาติ (National Electricity Market หรือ NEM) ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาว โดยผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการทั้ง 2 แห่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในกลุ่มน่าลงทุน (Investment Grade) ส่งผลถึงกระแสเงินสดที่บริษัทฯ จะได้รับอย่างมั่นคงในระยะยาว
นอกจากนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ โดยในปี 2563 มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 14 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในตลาดซื้อขายไฟฟ้าแห่งชาติ (NEM) และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต