โอเปก ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ปี 64
ไทยออยล์ คาด ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปี64 อยู่ที่ระดับ 45 – 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เชื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จับตาโอเปกปรับลดกำลังผลิตน้ำมัน
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คาดว่า ในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 45 – 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังตลาดคาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มขยายตัวที่ 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน (สำนักงานพลังงานสากล-IEA รายงาน ณ เดือนธันวาคม 2563) ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ร้อยละ 5.2 (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ-IMF รายงาน ณ เดือนตุลาคม2563)
โดยเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวมาจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งการผ่อนปรนมาตรการควบคุมพื้นที่เพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การพัฒนาวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี โดยข้อมูลล่าสุดบริษัท Pfizer-BioNTech และบริษัท Moderna ได้รายงานผลการทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 ว่าให้ประสิทธิภาพการป้องกันไวรัสได้สูงมากกว่าร้อยละ 94 ทั้งนี้ ประเทศสหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐฯ ได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนแล้วในเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ส่งผลให้ตลาดเชื่อมั่นมากขึ้นว่าความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวได้จริง หากวัคซีนให้ประสิทธิภาพที่ดีและมีเพียงพอต่อประชากรทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบในปี 2564 ยังถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร มีแผนปรับลดกำลังการผลิตน้อยลง เพื่อสอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยผลการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรเมื่อวันที่ 3 – 4 ธันวาคม 2563 มีข้อตกลงปรับระดับการลดการผลิตจาก 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2563 ไปอยู่ที่ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ส่วนในเดือนมกราคม 2564 จะมีแผนการประชุมรายเดือนต่อไป เพื่อพิจารณาลดระดับการปรับลดกำลังการผลิตตามความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัว ขณะที่ อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น ประเทศนอร์เวย์และบราซิล มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นราว 0.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน เช่นกัน