ศก.จีนฟื้นเร็วสุดในโลก
ขณะที่หลายประเทศในโลกกำลังประสบปัญหาในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เศรษฐกิจของจีนสามารถฟื้นตัวได้และคาดว่าจะจบปีนี้ด้วยตัวเลขการเติบโตที่น่าพอใจ
จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นประเทศมหาอำนาจประเทศเดียวที่สามารถเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีนี้ แม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดและธุรกิจชะงักงัน โดยคาดการณ์ว่าจีดีพีของจีนจะเติบโต 1.6% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมหดตัวลงถึง 5.2% จากการประเมินของธนาคารโลก
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวเร็วจากหลายมาตรการ ทั้งมาตรการล็อกดาวน์และการสอบสวนโรคติดตามเส้นทางการติดเชื้อเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส รัฐบาลยังจัดงบประมาณหลายแสนล้านดอลลาร์สำหรับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และให้เงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยเงินอุดหนุนเยียวยาให้ผลชัดเจน ทำให้การท่องเที่ยวและการใช้จ่ายดีดตัวฟื้นขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อนทีเป็นวันหยุดยาวฉลองวันชาติจีน หรือที่เรียกกันว่า ‘โกลเด้นวีค’
ภายในสิ้นปีนี้ สัดส่วนจีดีพีของจีนต่อจีดีพีทั่วโลกมีแนวโน้มจะเติบโตประมาณ 1.1% จากการคำนวณของ CNN โดยอ้างอิงข้อมูลของธนาคารโลก ซึ่งคิดเป็นกว่า 3 เท่าของสัดส่วนในปีที่แล้ว ตรงข้ามกับสหรัฐฯและยุโรปที่มีสัดส่วนลดลงเล็กน้อย
จากที่กล่าวมาทั้งหมด คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 14.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( หรือราว 452 ล้านล้านบาท ) ภายในสิ้นปี 2563 คิดเป็นประมาณ 17.5% ของจีดีพีทั่วโลก
เศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นเห็นได้ชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค เป็นวันหยุดฉลองทั้งวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนและเทศกาลไหว้พระจันทร์ และเป็นหนึ่งในฤดูการเดินทางที่พลุกพล่านที่สุดของปี
มีชาวจีนกว่า 630 ล้านคนที่เดินางทั่วประเทศช่วงโกลเด้นวีค ซึ่งยุติลงในวันที่ 8 ต.ค. จากข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว คิดเป็นเกือบ 80% ของจำนวนนักเดินทางในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า
เหมือนกับประเทศอื่นๆ โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบกับประชากรที่ยากจนและที่อยู่ในชนบทของจีน จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Fitch Ratings
โดยรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยของแรงงานอพยพในชนบทลดลงเกือบ 7% ในไตรมาสสอง เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการประเมินของธนาคารโลก อ้างอิงข้อมูลของรัฐบาลจีน โดยประชากรจีนหลายร้อยล้านคนในส่วนนี้ทำงานในภาคก่อสร้าง การผลิตและภาคส่วนอื่นที่ค่าจ้างต่ำแต่เป็นธุรกิจสำคัญ
และครัวเรือนรายได้น้อยในจีน (มีรายได้น้อยกว่า 7,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 227,739 บาทต่อปี ) ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากผลสำรวจที่ร่วมจัดทำโดยมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐกิจเซาธ์เวสต์เทิร์นของจีน และสถาบันวิจัยของ Ant Group
“ นี้ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวในการบริโภคตอนนี้มีแนวโน้มจะเกิดจากกลุ่มผู้มีรายได้สูง” Fitch Ratings ระบุ