จีนชี้ระบาดรอบสองฤดูหนาวนี้

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสองในจีนช่วงฤดูหนาวปีนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากยังไม่มีวัคซีน ก็จะมีการแพร่ระบาดอีกในประเทศ จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ
แต่จางเหวินฮง ผอ.ฝ่ายโรคติดต่อประจำโรงพยาบาลหัวซานในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า แม้ขณะนี้จะมีการพัฒนาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่จะผลิตใช้อย่างแพร่หลาย จากรายงานของสื่อจีน
“ ในจีน ผู้คนมีการถามกันว่าจะมีการระบาดระลอกสองหรือไม่ในช่วงฤดูหนาว ตอนนี้ยุโรปกำลังระบาดระลอกสอง อยู่ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะเห็นการติดเชื้อระลอกสองในจีน ” จางระบุในถ้อยแถลงที่การประชุมในเมืองเซี่ยงไฮ้
โดยเขาระบุว่า วัคซีนเป็นวิธีเดียวที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้
“แต่เป็นเรื่องยากที่ผู้ผลิตยาจะสามารถผลิตวัคซีนและนำเข้าสู่ท้องตลาดได้ภายใน 1 ปี” เขากล่าว
ขณะเดียวกัน ทางการดำเนินการตรวจสอบทุกมณฑลและเทศบาลเพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการระบาดในขนาดใหญ่
เขายังชี้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุการติดเชื้อ เพราะแม้ไวรัสโคโรนาจะมีอัตราการแพร่เชื้อสูง แต่คนจำนวนมากมีอาการของโรคเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย
“ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ มันไม่ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เพราะ 80% ของผู้ติดเชื้อไวรัสไม่แสดงอาการ มันน่ากลัวมาก” จางระบุ โดยเสริมว่า ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงจากโรคนี้ และมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นที่มีแนวโน้มจะติดเชื้อ เมื่อระบบสาธารณสุขรับภาระหนักเกิน
ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากมีความเห็นแบบเดียวกันจากจงหนานชาน ผู้เชี่ยวชาญระบบโรคทางเดินหายใจ ซึ่งระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไวรัสจะยังอยู่ต่อไปในจีนตลอดช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
“วัคซีนเป็นทางแก้พื้นฐานสำหรับโรคระบาด จำเป็นที่หลายประเทศต้องร่วมมือกัน และจะใช้เวลา 1 – 2 ปีสำหรับการฉีดวัคซีนให้คนจำนวนมาก” จงกล่าวในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย.
แต่จากความเห็นของอู่กุ้ยเจิน หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน อาจมีวัคซีนให้ชาวจีนได้เร็วที่สุดคือเดือนพ.ย. หรือธ.ค. เนื่องจากการทดสอบในเฟส 3 ของวัคซีนที่พัฒนาในจีนกำลังดำเนินไปได้ดี
เธอกล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานี CCTV ว่า เธอได้เป็นอาสาสมัครเข้าร่วมฉีดวัคซีนในการทดสอบเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และเธอรู้สึกสบายดี ไม่มีผลข้างเคียงที่ผิดปกติใดๆ
ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ในจีนดูจะสามารถควบคุมได้ แต่ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกำลัง “เข้าสู่โหมดสงคราม” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสจากประเทศเพื่อนบ้านคือเมียนมา ซึ่งกำลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างน่ากังวล
ทางการล็อกดาวน์เมืองชายแดนคือเมืองรุ่ยลี่ในสัปดาห์ก่อน หลังจากตรวจพบชาวเมียนมาติดเชื้อ 2 ราย มีผู้ติดเชื้ออีก 8 รายในมณฑลยูนนาน โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากที่อื่น และมีอีก 9 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
รัฐบาลมณฑลยูนนานมีการคุมเข้มแนวชายแดนเพื่อช่วยสกัดการระบาด จากแถลงการณ์ในการประชุมของรัฐบาลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
มีการตรวจหาเชื้อไวรัสกับชาวเมืองรุ่ยลี่ไปแล้วกว่า 287,000 คน ตั้งแต่ 15 ก.ย.เป็นต้นมา และจนถึงตอนนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ