จีนโต้กลับสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในเฉิงตู
ปักกิ่ง – เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ทางการจีนสั่งปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯในเมืองเฉิงตู เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯสั่งปิดสถานกงสุลจีนในฮุสตัน รัฐเท็กซัส
“ ในวันที่ 24 ก.ค. 2563 กระทรวงต่างประเทศของจีนขอแจ้งสถานทูตสหรัฐฯในจีนว่า จีนตัดสินใจที่จะเพิกถอนใบอนุญาตในการจัดตั้งและดำเนินการสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเฉิงตู และขอกำหนดให้สถานกงสุลยุติการดำเนินการและกิจกรรมทั้งหมด ” กระทรวงต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์
แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็น “ การโต้ตอบอย่างชอบธรรมและจำเป็น” กับการกระทำที่ “ไร้เหตุผล” ของสหรัฐฯ โดยกล่าวการตัดสินใจของทางการสหรัฐฯ
บก.บริหารสื่อ Global Times ระบุบนทวิตเตอร์ว่า ทางฝ่ายจีนได้แจ้งฝ่ายสหรัฐฯ ในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 24 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หมายความว่าสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเฉิงตูจะต้องปิดทำการภายในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 27 ก.ค.
ความสัมพันธ์ทวิภาคีของสหรัฐฯและจีนตกต่ำย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี มีประเด็นความขัดแย้งกันทั้งการค้า การโจรกรรมความลับ และมาตรการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาของจีน
โดยตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. วอชิงตันสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในฮุสตัน รัฐเท็กซัส โดยระบุว่าเพื่อเป็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและข่าวกรองของสหรัฐฯ และระบุว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางการให้ความสนับสนุนสายลับจากกองทัพจีนในการโจรกรรมข้อมูลอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ
ไม่นานหลังมีคำสั่งปิดสถานกงสุล พยานในฮุสตันให้ข้อมูลว่า มีการนำเอกสารมาเผาในถังขยะเปิดในพื้นที่ของสถานกงสุล
นักการทูตชาวจีนมีเวลา 72 ชม. จนถึงบ่ายวันที่ 24 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ เพื่อเตรียมปิดสถานกงสุล
จีนประกาศว่าจะโต้ตอบเอาคืนกับการกระทำของสหรัฐฯ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯเรียกร้องต่อประชาชนชาวจีน และหลายประเทศเสรีนิยมในโลก เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
“ประเทศเสรีต้องชนะเผด็จการใหม่ ” เขากล่าว “ หากประเทศโลกเสรีไม่เปลี่ยนจีนคอมมิวนิสต์ จีนคอมมิวนิสต์จะเปลี่ยนเราอย่างแน่นอน ”
นี่ถือเป็นการกล่าวหารัฐบาลจีนครั้งสำคัญจากคนในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากมีการกล่าวหาจีนซ้ำๆมานานหลายสัปดาห์ ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศเลวร้ายลง
โดยรมว.ปอมเปโอระบุว่า หลังการพูดคุยปรึกษา เขาได้ถามหลายประเทศ ขอให้เลือกข้าง โดยระบุว่าหลายประเทศซึ่งยืนหยัดกับจีน สามารถพึ่งพาสหรัฐฯได้
“ ผมคิดเรื่องการเลือกข้างแตกต่างจากการเลือกข้างสหรัฐฯ หรือเลือกจีน ความแตกต่างคือฝั่งเสรีภาพกับผด็จการเป็นการตัดสินใจที่เรากำลังถามแต่ละประเทศ ”
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. รัฐบาลปักกิ่งระบุว่าถ้อยแถลงของรมว.ปอมเปโอมีอคติทางความคิด โดยหวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวในการแถลงข่าวรายวันว่า จีนขอให้สหรัฐฯ “ เลิกทำสงครามเย็นทางความคิด”