เศรษฐกิจจีน Q2 โต 3.2%
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เศรษฐกิจของจีนพลิกฟื้นกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในไตรมาส 2 หลังจากดิ่งร่วงในช่วงต้นปี เนื่องจากมีการปลดล็อกดาวน์และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสู้กับภาวะช็อกจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเศรษฐกิจของจีน ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ยังไม่ผ่านพ้นวิกฤต เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนยังคงซบเซา เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลมีแนวโน้มจะต้องให้ความช่วยเหลือมากขึ้นเพื่อหนุนให้การฟื้นตัวแข็งแกร่งมั่นคงขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ตัวเลขจีดีพีเติบโต 3.2% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ว่าจะเติบโต 2.5% จากนักวิเคราะห์โพลรอยเตอร์ แต่ยังคงทำสถิติเป็นการขยายตัวที่อ่อนแรงที่สุด
ตัวเลขที่ดีดตัวขึ้นมานี้มีขึ้นหลังจากเคยดิ่งร่วงถึง 6.8% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการหดตัวมากขนาดนั้นนับตั้งแต่ปี 2535 เป็นอย่างน้อยที่เริ่มมีการบันทึกตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส
มีการจับตามองตัวเลขจีดีพีนี้จากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ขณะที่จีนสามารถควบคุมการระบาดได้ และเริ่มต้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้า
“ ขณะที่โดยทั่วไป ก็ยุติธรรมที่จะพูดว่าตัวเลขสูงเกินคาดการณ์ แต่สิ่งที่ตัวเลขบอกยังเผยว่าการโภคในจีนยังคงอยู่ต่ำกว่าสิ่งที่เรียกว่าฟื้นตัว ” โรดริโก คาทริล นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ NAB ในซิดนีย์ระบุ
“เป็นการฟื้นตัวซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาก ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นที่ภาคส่วนอุตสาหกรรม แต่ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย การระวังเช่นนี้เป็นบางอย่างที่ตลาดกำลังจับตามองเพราะในหลายประเทศผู้บริโภคมีบทบาทมากกว่านี้ ดังนั้น ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสหรัฐฯเช่นกัน ”
ข้อมูลชี้ว่า เศรษฐกิจหดตัวลง 1.6% ในช่วง 6 เดือนแรก เมื่อเทียบกับปีก่อน เน้นให้เห็นถึงผลกระทบอย่างกว้างขวางของวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้
เศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นที่แรกในโลกที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวจากไวรัสยังคงไม่เสถียร
คาดการณ์ว่าทางรัฐบาลจะยังคงมาตรการช่วยเหลือในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อหนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความกังวลว่าความเสี่ยงหนี้จะเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานีวิทยุของรัฐยกคำพูดของนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงมารายงานว่า ขณะที่เศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวที่มีเสถียรภาพ แต่ยังคงต้องต่อสู้อีกนาน เนื่องจากสถานการณ์ยังคงร้ายแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้จ่ายเงินงบประมาณ การลดภาษี การลดดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินสำรองของธนาคารเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสนับสนุนการจ้างงาน
ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 4.8% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การค้าปลีกและการลงทุนยังอ่อนแรง โดยตัวเลขค้าปลีกลดลง 1.8% จากปีก่อน และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรลดลง 3.1% ในช่วงครึ่งปีแรก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานลดลง 2.7% ในช่วงครึ่งปีแรก เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว