ไวรัสทำจีนตกงานมากกว่าช่วงสงครามการค้า
อัตราการว่างงานในจีนเพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนแรกของปี 2563 จากแรงกดดันของการระบาดของโควิด – 19 มากกว่าที่เคยเป็นในช่วง 18 เดือนของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
โดยตัวเลขการว่างงาน ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลจีน เพิ่มขึ้นเป็น 6.2% ในเดือนม.ค. – ก.พ. จากเดิม 5.2% ในเดือนธ.ค. และ 5.3% ในปีที่แล้ว จากข้อมูลที่มีการเผยแพร่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเมื่อวันที่ 16 มี.ค.
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่า 0.3% สูงกว่าช่วง 18 เดือนก่อน ซึ่งเป็นช่วงสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
รัฐบาลจีนยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่ตั้งเป้าไว้สำหรับปี 2563 เนื่องจากการประชุมของสภาประชาชนแห่งชาติที่มีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนมี.ค. ต้องเลื่อนออกไปจากไวรัสโควิด -19 แม้ตัวเลขที่อ่านได้ล่าสุดจะสูงกว่าเป้าหมายปี 2562 ที่ “ประมาณ 5.5%”
อัตรานี้เป็นอัตราสูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา แม้ตัวเลขการว่างงานจะเพิ่งมีการเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาก็ตาม
การจ้างงานที่มีเสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการสร้างเสถียรภาพทางสังคม และจากการประชุมวางแผนเศรษฐกิจในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ผู้นำสูงสุดของจีนให้คำมั่นว่า “ จะไม่มีครอบครัวใดที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวเป็นคนว่างงาน”
ในสัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงย้ำถึงข้อผูกพันนั้น แม้จะมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของจีนจะหดตัวลงในไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการปฏิวัติวัฒนธรรมในปี 2519 เป็นต้นมา
“ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจะสูงกว่า หรือต่ำกว่าเล็กน้อยในปีนี้ ตราบเท่าที่ตลาดงานของจีนยังมีเสถียรภาพ” นายกฯหลี่เค่อเฉียงระบุ
จีนออกมาตรการลดภาษีและกองทุนฉุกเฉินจำนวนนับล้านล้านหยวนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งมีการจ้างงานเป็นส่วนใหญ่ของกำลังแรงงานในจีน
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจแรงงานออนไลน์ของ Zhaopin.com ซึ่งเป็นบริการรับสมัครงานที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ชี้ว่า 40.2% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 7,129 รายระบุว่า บริษัทของพวกเขากลับมาดำเนินการผลิตเต็มกำลัง ขณะที่ 25.1% ระบุว่า พวกเขาตกงานจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา นอกจากนี้ 17% ระบุว่ายังไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่อีก 20% ระบุว่าได้รับค่าจ้างล่าช้า
ขณะที่ผลสำรวจอีกชิ้นของ Zhaopin.com ที่มีต่อฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทชี้ว่า 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า จะลดการจ้างงานลง ขณะที่ 28.2% ระบุว่า จะไม่รับสมัครคนใหม่เข้ามาเติมอัตราที่ว่างอยู่
ทั้งนี้ จำนวนบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยของจีนในปีนี้จะมากถึง 8.74 ล้านคนในฤดูร้อนนี้ แต่จำนวนงานในเมืองลดลงมาอยู่ที่ 1.08 ล้านอัตราในช่วงสองเดือนแรกของปี จากเดิม 1.74 ล้านอัตราในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562