ยอดติดเชื้อใหม่ในจีนต่ำสุดหลังเปลี่ยนเกณฑ์ตรวจ
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 20 ก.พ. จีนรายงานจำนวนผุ้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. เป็นต้นมา โดยบางส่วนเป็นเพราะการเปลี่ยนเกณฑ์ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในมณฑลหูเป่ย ที่เป็นศูนย์กลางการระบาด
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 394 ราย ลดลงอย่างชัดเจนจากตัวเลข 1,749 รายหนึ่งวันก่อนหน้านี้ และถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดหลังวันที่ 23 ม.ค.เป็นต้นมา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในจีนสูงถึง 74,576 รายแล้ว
โควิด – 19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่อุบัติใหม่ในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ยเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยผู้ป่วยรายแรกติดเชื้อไวรัสมาจากตลาดขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายในเมืองอู่ฮั่น
ในตอนแรก ทางการจีนใช้กรดนิวคลีอิกในการทดสอบหาไวรัส แต่กระบวนการนี้ใช้เวลาหลายวัน และยังทำให้กรดนิวคลิอิกขาดแคลนอีกด้วย
ในสัปดาห์ที่แล้ว หูเป่ยจึงได้เปลี่ยนมาใช้ CT สแกนเพื่อตรวจหาไวรัส โดยผลลัพธ์จะเปิดเผยการติดเชื้อที่ปอด และยืนยันว่ามีไวรัสอยู่ แต่การใช้ CT สแกนส่งผลทำให้มีการนับผู้ป่วยต้องสงสัยว่าจะมีสัญญาณของอาการปอดอักเสบ แต่ไม่มีผลบวกกับไวรัส กลายเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสไปด้วย
ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสพุ่งทะยานขึ้นเป็นมากกว่า 15,000 รายในวันที่ 12 ก.พ. และก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากที่ไวรัสแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วขึ้น
แต่เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ทาง NHC ระบุว่าได้มีการลบจำนวนผู้ติดเชื้อจากเกณฑ์วัดใหม่ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อถูกลบไป 279 รายจากตัวเลขรวมในหูเป่ย โดยคณะกรรมาธิการระบุว่า การทดสอบไวรัสด้วยกรดนิวคลิอิกเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
อัลเลน เฉิง ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อที่ม. Monash ในเมลเบิร์นระบุว่า เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้ติดเชื้อที่ตรวจวัดด้วยวิธีที่ต่างกันในเวลาที่ต่างกัน จึงบวกเพิ่ม หรือลบออกจากตัวเลขรวมในวันอื่น “ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการนับตัวเลขในวันที่รายงาน นี่เป็นประเด็นที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงมากในวันที่ 12 ก.พ.” เขาระบุ
หากไม่นับรวมหูเป่ย จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนอยู่ที่ 45 รายในวันที่ 19 ก.พ. ลดลงมาจาก 56 รายในวันก่อนหน้านี้ และลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 แล้ว
มณฑล อาณาเขตและเทศบาลที่มีรายงานว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันที่ 19 ก.พ.คือ เหลียวหนิง ฝูเจี้ยน ซานซี เซี่ยงไฮ้ เจียงซู กุ้ยโจว หนิงซี มองโกเลียใน และชิงไห่
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ซุนชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า สถานการณ์การระบาดยังคงร้ายแรง แม้ความพยายามในการควบคุมไวรัสในหูเป่ยมีความก้าวหน้า