ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประชุมโควิด-19 ที่จีน
ปักกิ่ง : เมื่อวันที่ 16 ก.พ. องค์การอนามัยโลกระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเริ่มประชุมร่วมกันเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ในจีน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำนายถึงทิศทางการควบคุมการระบาดในอนาคต
หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนลดลง 3 วันต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกในวันต่อมา ทำให้ทั่วโลกกังวลเรื่องการระบาด นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังประกาศว่ามีชาวอเมริกันมากกว่า 36 รายจากเรือที่ถูกกักกันโรคในญี่ปุ่นติดเชื้อ
ผู้เสียชีวิตจากไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,665 รายในจีน และมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 69,000 ราย
“ ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติที่เข้าร่วมในภารกิจที่ @WHO เป็นผู้นำกับจีนเดินทางถึงกรุงปักกิ่งแล้ว และมีการประชุมครั้งแรกกับผู้เชี่ยวชาญของจีนในวันนี้” นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุในทวิตเตอร์
“ เราตั้งตารอการร่วมมือครั้งสำคัญที่จะให้ความรู้กับคนทั่วโลกเกี่ยวกับการระบาดของ # COVID-19”
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่อื่นของประเทศจีนลดจำนวนลงเป็นวันที่ 12 ติดต่อกัน
หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติระบุเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า ตัวเลขนี้เป็นสัญญาณว่าจีนควบคุมการระบาดของไวรัสได้
“ ผลของการป้องกันและควบคุมการระบาดในหลายพื้นที่ของประเทศเห็นได้ชัดขึ้น” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
ถึงแม้จีนยืนยันว่าสามารถควบคุมการระบาดได้ แต่ทางการหูเป่ยกลับประกาศมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
โดยให้พลเมืองทุกคนอยู่แต่ในบ้าน มีการควบคุมการออกข้างนอกอย่างเคร่งครัด คือเพื่อออกไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นเท่านั้น และปิดสถานที่ไม่สำคัญทั้งหมด
โดยรัฐบาลในมณฑลอื่นๆของจีนมีการนำมาตรการเหล่านี้ไปใช้มรการพยายามควบคุมการระบาดของไวรัส อย่างเช่นในกรุงปักกิ่ง ประชาชนที่เดินทางกลับมาจากเมืองอื่น ต้องกักบริเวณตัวเองนาน 14 วัน
ประชาชนเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม่้คนจำนวนมากจะยังทำงานจากที่บ้านและโรงเรียนยังคงปิดทำการเรียนการสอนต่อไป
ที่ผ่านมา รัฐบาลถูกวิจารณ์เกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตไวรัส ทำให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงระบุว่า รัฐบาลต้อง “เพิ่มกำลังตำรวจและให้ตำรวจปฏิบัติการอย่างเข้มแข็งมากขึ้น” ในช่วงวิกฤต ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. แต่สื่อรัฐนำมารายงานเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
“ เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้น มันกลายเป็นความสำคัญทางการเมือง เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของจีนในสายตานานาชาติ เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์” โจวซุน นักประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ที่มหาวิทยาลัย Essex ระบุ
ระบบสาธารณสุขของจีนนั้น “มีงานล้นมือ ไร้ประสิทธิภาพ ใช้งบเยอะ และวุ่นวายยุ่งเหยิง ” เธอเสริม “ เป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ทำให้วิกฤตยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม”