จีนปิดเมือง ไก่หลายล้านตัวเสี่ยงถูกกำจัด
หลังจากวิกฤตเนื้อหมู ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในจีนตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอีกครั้งจากการระบาดของไวรัส ทำให้ไก่หลายล้านตัวมีความเสี่ยงที่จะถูกกำจัดในอีกไม่กี่วันนี้เนื่องจากขาดแคลนอาหารสัตว์อย่างหนักในช่วงเวลานี้
การปิดเมืองในหลายมณฑลส่งผลกระทบกับซัพพลายเชน เนื่องจากมีการปิดระบบคมนาคมขนส่งทำให้มีความยากลำบากในการขนส่งอาหารสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง ไปที่ฟาร์มไก่ จากรายงานของนักวิเคราะห์และสื่อภาครัฐ
จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทางการจีนปิดถนนและทางด่วน รวมถึงระงับการเดินทางของรถโดยสารระยะไกล
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. INTL บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระบุว่า ซัพพลายถั่วเหลืองขาดแคลนจนส่งผลกับการเลี้ยงสัตว์
“ นี่กำลังจะสร้างปัญหาใหญ่กับภาคปศุสัตว์ แม้โรงงานในท้องถิ่นจะเริ่มเปิดทำการแล้ว แต่จะต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการขนส่งจากปัญหาโลจิสติกส์ ( ขาดแรงงาน ถนนปิด ด่านตรวจตามถนน)” Darin Friedrichs นักวิเคราะห์โภคภัณฑ์อาวุโสที่บริษัท INTL FCStone ระบุ
“ ผมคิดว่า ในหลายภูมิภาค การคมนาคมส่งผลกระทบกับการเลี้ยงไก่ คาดการณ์ว่า ไม่เพียงไตรมาสแรกเท่านั้นจะถูกกระทบ แต่ยังรวมถึงไตรมาส 2 ด้วย” Chenjun Pan นักวิเคราะห์อาวุโสที่ Rabobank กล่าวกับสื่อ CNBC
เกษตรกรในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดของไวรัส ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันมาก ทำให้สมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในหูเป่ยต้องส่งจดหมายร้องเรียนถึงสมาคมเกษตรกรรมสัตว์ระดับชาติของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยจดหมายระบุว่า การคมนาคมที่เป็นอัมพาต และฟาร์มขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะเผชิญกับการขาดแคลนอาหารสัตว์ในเร็วๆนี้ ซึ่งกระทบกับการดำเนินกิจการของฟาร์ม
สมาคมเกษตรกรรมสัตว์ของจีนร้องขอให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ส่งข้าวโพด 18,000 ตันและถั่วเหลือง 12,000 ตันให้กับมณฑลหูเป่ย
จากรายงานของสื่อ Global Times ซึ่งเป็นสื่อของรัฐระบุว่า มีไก่ประมาณ 348 ล้านตัวในหูเป่ย ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงสัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ในจีน โดยหูเป่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตไข่ไก่รายสำคัญ มีการฆ่าประมาณ 500 ล้านตัวในแต่ละปี
โดย Global Times รายงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หูเป่ยขาดแคลนอาหารสัตว์อย่างรุนแรง สต็อกอาหารที่มีอยู่จะมีพอใช้ได้อีก 3 – 5 วันเท่านั้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากเกษตรกรที่ระบุว่า ไก่หลายล้านตัวจะตายหากไม่มีซัพพลายอาหารใหม่เข้ามา
รายงานระบุว่า ผู้เลี้ยงไก่หลายรายลดปริมาณการให้อาหารไก่ต่อวันลงเพื่อให้ซัพพลายอาหารอยู่ได้นานขึ้น
มีรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกจากตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่นเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ระบาดอย่างรวดเร็วและมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและติดเชื้อกว่า 2 หมื่นคนในจีน
วิกฤตจากไวรัสกำลังกดดันเกษตรกรในจีน เนื่องจากรัฐบาลสั่งให้อุตสาหกรรมยกระดับการผลิตเพื่อให้ซัพพลายอาหารและราคามีเสถียรภาพ ซ้ำเติมสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเกิดวิกฤตจากโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร ที่ทำให้ต้องมีการฆ่ากำจัดหมูจำนวนมาก และทำให้ราคาเนื้อหมูพุ่งทะยานในปีที่แล้ว
โดยในช่วงที่เกิดวิกฤตขาดแคลนเนื้อหมู ร้านอาหารจำนวนมากในจีนเปลี่ยนไปใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นทดแทนในเมนูอาหาร ทั้งเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อปลา
แนวโน้มของปศุสัตว์ในจีนอาจได้รับผลกระทบมากขึ้น จากรายงานการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ในมณฑลหูหนาน ทำให้ต้องมีการกำจัดสัตว์ปีกไปกว่า 17,000 ตัวเพื่อป้องกันการระบาด
สื่อรอยเตอร์รายงานว่า จีนผลิตเนื้อสัตว์ปีกมากถึง 22 ล้านตันในปี 2562 เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า ท่ามกลางการขาดแคลนเนื้อหมู