มณฑลเจ้อเจียงคุมเข้มมาตรการกักตัวสู้ไวรัส
ในมณฑลที่อยู่ริมชายฝั่งอย่างเจ้อเจียง และห่างจากศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปทางตะวันออกถึง 560 กม. มีอย่างน้อย 4 เมืองที่ใช้มาตรการแบบเดียวกับมณฑลหูเป่ย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส
ทางการเจ้อเจียง ซึ่งอยู่ติดกับเมืองท่าเรืออย่างเซี่ยงไฮ้ ได้ปิดเส้นทางสาธารณะที่ไม่สำคัญ ห้ามจัดพิธีศพและพิธีแต่งงาน จำกัดจำนวนสมาชิกที่จะเข้าออกจากบ้าน และกักครอบครัวไว้ให้อยู่แต่ในบ้าน
หลายเมืองในมณฑลเจ้อเจียง ทั้งเมืองเวินโจว หางโจว หนิงโป และไท่โจว ที่มีประชากรรวมกันประมาณ 30 ล้านคน กำหนดให้แต่ละครัวเรือนต้องมี ‘หนังสือเดินทาง’ ที่เป็นกระดาษระบุชื่อ ที่อยู่และประทับตราทางการ โดยมีเพียง 1 คนต่อ 1 ครอบครัวที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้ทุก 2 วัน
มีการประกาศกฎข้อบังคับผ่านสื่อภาครัฐและบัญชีโซเชียลมีเดียของรัฐบาล และทุกครอบครัวได้รับ ‘หนังสือเดินทาง’ แล้ว
ในการบังคับใช้กฎในการเดินทางใหม่ เจ้าหน้าที่ชุมชนต้องประจำอยู่ที่ทางเข้าของชุมชน ทุกครั้งที่มีผู้ออกจากชุมชน เจ้าหน้าที่ต้องบันทึกเวลาและวันที่ของ ‘หนังสือเดินทาง’ โดยประชาชนจากครัวเรือนเดียวกันจะออกจากบ้านได้อีกครั้งในอีก 2 วัน
ด้วยจำนวนผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 954 ราย มณฑลเจ้อเจียงนับว่าเป็นมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดอย่างรุนแรงรองจากมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อประมาณ 19,665 รายจากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดกว่า 28,268 ราย
หางโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลและเป็นเมืองที่มีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของจีนตั้งอยู่ มีรายงานผู้ติดเชื้อ 151 ราย ขณะที่เมืองท่าเรือเวินโจวมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ 396 ราย
เหยาเกาหยวน นายกเทศมนตรีเมืองเวินโจว ระบุในการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ CCTV เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ว่า ทางเมืองตัดสินใจที่จะใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา “ นี่จะช่วยลดการแพร่เชื้อที่อาจกลายเป็นจำนวนมหาศาล”
ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งชื่นชมมาตรการที่ช่วยควบคุมการระบาดของไวรัส แต่อีกหลายคนก็วิจารณ์ว่ามาตรการกักตัวทำให้เหมือนถูกจับขังอยู่ที่บ้าน
ชาวหางโจวหลายคนบ่นในโลกออนไลน์ว่า พวกเขาถูกห้ามไม่ให้เข้าบ้านเช่าหลังจากไปเที่ยวที่อื่นช่วงวันหยุดตรุษจีน
จากสัญญาณความกลัวการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศจีนเข้มงวดการเดินทางของพลเมืองเช่นเดียวกับมาตรการในมณฑลหูเป่ย