กังวลไวรัสซ้ำเติมเศรษฐกิจจีน
ไม่ถึงสัปดาห์หลังจีนลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 1 กับสหรัฐฯ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงต้องประสบกับวิกฤตครั้งใหม่ที่อาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจที่เปราะบางของจีน โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่าไวรัสโคโรนาอาจเป็นอุปสรรคสำคัญลำดับแรกของปี 2563
ไวรัส ซึ่งเริ่มต้นการระบาดในเมืองอู่ฮั่น และเชื่อว่าได้แพร่กระจายไปอีก 20 เมืองของจีน จะส่งผลกระทบด้านลบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากความเห็นของเฉาหยู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Orient Securities ในเซี่ยงไฮ้ แม้จะมีคำเตือนว่ายังคงเร็วเกินไปที่จะประเมินผลที่ตามมาในระยะยาว
จีนยังคงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 6.1% ในปีที่แล้ว แม้จะมีสงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางและรัฐบาล แต่เฉินเจียงกวง นักเศรษฐศาสตร์จีนที่ JD Digit ระบุว่า “ ยังเร็วเกินไปที่จะทำนายถึงผลตอบรับจากนโยบาย เช่น การผ่อนคลายนโยบายการคลัง”
เมื่อหนึ่งปีก่อน ประธานาธิบดีสีระบุให้ทางการเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงที่เป็นเหมือน ‘แรดสีเทา’ รวมทั้ง ‘หงส์ดำ’ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยสงครามการค้าและเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง ถูกนักวิชาการมองว่าเป็น ‘หงส์ดำ’ ของปี 2562
“ หงส์ดำมักมาแบบไม่คาดคิด” กวนชิงหยู นักเศรษฐศาสตร์ที่ Minsheng Securities โพสต์บนเว่ยป๋อ โดยมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นถึงผลกระทบของไวรัสที่มีต่อเศรษฐกิจ โดยผู้ใช้งานรายหนึ่งยังได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่ใหญ่กว่าสงครามการค้า
Rajiv Biswas หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิกที่ IHS Markit ชี้ว่า โรคระบาดอู่ฮั่น “อาจกลายเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลกับเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” หลังจากมีการยืนยันว่าไวรัสแพร่ระบาดจากคนสู่คนไม่กี่วันก่อนวันหยุดยาวช่วงตรุษจีน
โรคระบาด ซึ่งทำให้หวนนึกถึงโรค Sars ที่ระบาดในปี 2546 ทำให้เกิดดีมานด์ซัพพลายทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย ขณะที่บีบให้หลายคนต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดตรุษจีน
อู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่าลอนดอน และเป็นฮับโครงข่ายรถไฟขนาดใหญ่ของจีน ได้มีการตรวจคัดกรองที่สนามบินและสถานีรถไฟ กรุ๊ปทัวร์มีการระงับการเดินทาง ขณะที่มีคำแนะนำให้ยกเลิก หรือเลื่อนแผนเดินทางไปอู่ฮั่น
การใช้จ่ายของผู้บริโภค บันเทิง และการท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีน ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 ม.ค. จะต้องรับมือกับความกังวลของประชาชนในช่วงการระบาดของโรค
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของจีน ยอดค้าปลีกและร้านอาหารมียอดขาย 1 ล้านล้านหยวนในช่วงสัปดาห์ของวันหยุดยาวในปีที่แล้ว ขณะที่การท่องเที่ยวของจีนระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 513,900 ล้านหยวนในปีที่แล้ว
คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในหลายเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ที่มีการยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยซูเจียนเว่ย นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสที่ Natixis เตือนว่า ภาคส่วนโรงแรมและการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบ
โรค Sars ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 349 รายในจีนและทำให้มีผู้ติดเชื้อ 5 พันรายทั่วประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 2 ของปี 2546 ชะลอตัวลงก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น โดยการค้าปลีกและเงินลงทุนจากต่างประเทศถูกกระทบเป็นช่วงสั้นๆ และ GDP เติบโต 10% ในปี 2546 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 8.3% ในปี 2545
จงหนานชาน ผู้เชี่ยวชาญโรค Sars และผอ.แล็บโรคทางเดินหายใจในกวางโจว กล่าวในงานแถลงข่าวที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ว่า ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา จะไม่ใหญ่เท่าโรค Sars เมื่อ 17 ปีก่อน.