จีนเร่งหนุนศก. หวั่นคนตกงานมากขึ้น
ฮ่องกง (CNN) – รัฐบาลจีนต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศในปี 2563 ซึ่งจะต้องทำงานหนักมากเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสิ่งที่จะเกิด
รัฐบาลปักกิ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่า จีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกจะไม่ปล่อยให้ประเทศจมดิ่งและสุ่มเสี่ยงที่จะต้องปลดพนักงานออกจำนวนมาก เนื่องจากจีนมีหนี้เพิ่มขึ้น จึงต้องพยายามรักษาสมดุลของเศรษฐกิจในประเทศ ระหว่างที่สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ยังดำเนินอยู่
ปีนี้เป็นปีสำคัญเพราะเป็นปีที่รัฐบาลจีนสรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีครั้งที่ 13 ซึ่งในระยะเวลาตามแผน มีการให้คำมั่นว่าจะทำให้เกิด ‘สังคมที่มั่งคั่งอย่างพอเพียง’ และขจัดความยากจน โดยสมาชิกอาวุโสของโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์(ซึ่งเป็น 7 คนที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในจีน ) ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ต้องใช้ทุกมาตรการเพื่อให้บรรลุตามเป้าในปี 2563
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ รัฐบาลส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดภาษีที่ช่วยบรรเทาความลำบากจากราคาที่ปรับสูงขึ้น และลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น
สภารัฐกิจของจีนระบุเมื่อเดือนก่อน ให้รัฐบาลผ่อนปรนทุกมาตรการเพื่อปกป้องไม่ให้จำนวนงานหายไปในปีนี้ โดยระบุว่าเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของประเทศ
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลระบุว่า ได้สร้างงานใหม่จำนวน 11 ล้านอัตราต่อปี เพื่อคงเสถียรภาพการจ้างงานในประเทศให้มั่นคง
ขณะที่ข้อมูลการว่างงานอย่างเป็นทางการของจีนในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อยู่ระหว่าง 4% – 5% โดยจีนส่งสัญญาณว่า มีความกังวลอย่างผิดปกติเกี่ยวเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความท้าทายของปีนี้
การว่างงานจำนวนมาก ที่เกิดจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง และธุรกิจที่ล้มเหลวในจีน อาจทำให้เกิดความตึงเครียดในสังคมและเหตุการณ์ความไม่สงบ เขย่าระบบการปกครองของจีน
ในเดือนธ.ค. จงชาน รมว.กระทรวงพาณิชย์ของจีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และบอกให้ประชาชนรัดเข็มขัดและเตรียมพร้อมสำหรับปีที่ยากลำบากนี้ “ ใช้เงินทุกหยวนกับของที่จำเป็นเท่านั้น ” เขากล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงในการประชุมนโยบาย
ขณะที่แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบาเองก็ระบุถึงบรรยากาศทางธุรกิจที่ยากลำบากในปี 2562 โดยเขากล่าวกับผู้ประกอบการในเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนก่อนว่า “ เราต้องรู้ด้วยว่า นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น”
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนอัดฉีดเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯเข้าสู่ระบบธนาคาร , ประกาศแผนที่จะสร้างรถไฟและสนามบินเพิ่ม , ลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าหลายร้อยรายการ และสัญญาจะเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในหลายอุตสาหกรรม
แต่จีนไม่ได้ละเลยภาคเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงระบุว่่า รัฐบาลกำลังทำการศึกษาว่าจะให้เงินทุนสนับสนุนแก่บริษัทขนาดเล็กและขนาดจิ๋วได้อย่างไร นอกจากนี้ ธนาคารกลางของจีนยังได้ลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้กู้ทางธุรกิจ โดยนายกฯหลี่เรียกร้องให้ธนาคารจีนให้ปล่อยเงินกู้มากขึ้นกับบริษัทขนาดเล็ก
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มีมาตรการโดยตรงเพื่อลดความเสี่ยงของการว่างงาน โดยให้ประชาชนย้ายจากชนบทมาหางานทำในเมืองได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่อนปรนระบบลงทะเบียนครัวเรือน ซึ่งจะช่วยเร่งให้หลายเมืองพัฒนาเร็วขึ้นและคงเสถียรภาพให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน จากการวิเคราะห์ของบริษัทวิจัย Huaxi Securities.