ยอดขายรถในจีนปี 62 ดิ่งจากศก.ชะลอตัว
จีน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดรถยนต์ที่ร้อนแรงที่สุด รายงานยอดขายที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคหยุดซื้อของชิ้นใหญ่ราคาสูง
โดยรถยนต์โดยสาร ซึ่งรวมทั้งรถซีดาน , SUV , มินิแวน และ MPV ลดฮวบลงมาอยู่ที่ 21.04 ล้านคันในปี 2562 ลดลง 7.5% จากปีก่อนหน้า จากตัวเลขของสมาคมรถยนต์โดยสารจีน ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ตลาดคาดการณ์ว่ายอดขายจะทรงตัวในปีที่แล้ว
ยอดขายโดยรวมลดลง แต่รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นกลับขายได้มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าชาวจีนมองว่าเหนือกว่าคู่แข่งซึ่งเป็นแบรนด์ในประเทศ
โดยยอดขายในปี 2561 ลดลง 5.8% นับเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 2535 ที่ตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหดตัวลง
แต่ปีนี้ แนวโน้มดูจะสดในมากขึ้นเนื่องจากมีผู้ขับขี่รถยนต์บนถนนมากขึ้นและซื้อรถคันแรกมากขึ้น จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์โดยสารจีน
“ สำหรับปี 2563 คาดการณ์ว่าตลาดจะเริ่มต้นอย่างช้าๆ เนื่องจากโมเมนตัมด้านลบยังคงมีผลกระทบอยู่” กุยตงชู เลขาสมาคมกล่าว “ แต่ยอดขายจะพุ่งขึ้นช่วงกลางปี 63 จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้มีใบขับขี่มากขึ้น และคนขับหน้าใหม่จะซื้อรถในที่สุด”
ทางสมาคมคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2563 จะเพิ่มขึ้น 1% จากปีที่แล้ว
ในเดือนธ.ค. ยอดขายรถยนต์อยู่ที่ 2.17 ล้านคัน ลดลง 3.6% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ตัวเลขน้อยกว่าที่เคยปรับลดลงถึง 4.2% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์จีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2552 เริ่มสูญเสียโมเมนตัมในเดือนมิ.ย. 2561 โดย 19 เดือนหลังจากนั้น ตลาดรายงานยอดขายที่ลดลงถึง 18 เดือน
มีเฉพาะเดือนมิ.ย.2562 เท่านั้นที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อนหน้า เพราะดีลเลอร์มีข้อเสนอที่ดึงดูดใจลูกค้าสูงสุดเพื่อเคลียร์รถในสต็อก
เศรษฐกิจของจีนขยายตัวเติบโต 6% ในไตรมาส 3 เป็นตัวเลขที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 2535 เป็นต้นมา ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า , นิสสัน และฮอนด้า ซึ่งมียอดขายรวมกันถึง 20% ในตลาดจีน กลับเติบโตสวนกระแส โดยทั้งสามแบรนด์มียอดขายพุ่งทะยานในปีที่แล้ว เนื่องจากผู้ขับขี่ชาวจีนมองว่ารถญี่ปุ่นเหนือกว่าทั้งดีไซน์และการประหยัดน้ำมัน
จากข้อมูลล่าสุด เดือนม.ค. – พ.ย. ปี 62 ยอดขายรถญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า.