จีนใช้งานมือถือเกิน 6 ชม.ต่อวัน
ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในจีนใช้เวลากับสมาร์ทโฟนของตัวเองมากกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯเกือบ 2 เท่า จากผลวิจัยล่าสุด
จากต้นปี 2562 ถึงสิ้นเดือนพ.ย.ของปี ผู้ใช้งานแต่ละคนใช้เวลาเฉลี่ย 6.2 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 1.8 วันต่อสัปดาห์ อยู่ในโลกออนไลน์กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 11.3% จากรายงานที่ตีพิมพ์โดยบริษัทวิจัย Questmobile เมื่อวันที่ 2 ม.ค.
โดยค่าเฉลี่ยของจำนวนแอปพลิเคชั่นที่พวกเขาใช้งานต่อเดือนก็เพิ่มขึ้นจาก 21.3 แอปในปี 2561 เป็น 23.6 แอปในปี 2562 จากข้อมูลในรายงาน
ขณะที่รายงานอีกชิ้นจากบริษัทวิจัย eMarketer ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้วประเมินว่า ค่าเฉลี่ยที่ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จะใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือคือ 3.43 ชั่วโมงต่อวันในปี 2562
การเติบโตของเทคโนโลยีของจีนในทศวรรษที่ผ่านมาได้แรงขับเคลื่อนจากการใช้โทรศัพท์มือถือ หนุนให้อุตสาหกรรมแอปทั่วโลกบูมขึ้น และเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต การทำงานและการเล่นของประชาชนในประเทศ จำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าใน 10 ปี คือมากกว่า 847 ล้านรายในเดือนมิ.ย. 2562 จากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐคือ China Internet Network Information Center (CNNIC)
การใช้งานโทรศัพท์มือถือในโลกออนไลน์ของจีนไม่มีสัญญาณชะลอตัว เนื่องจากได้แรงหนุนจากจำนวนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น , อุตสาหกรรมค้าปลีกที่รุกตลอดอนไลน์ รวมถึงความนิยมใน
การสตรีมมิ่ง และการบูรณาการของโซเชียลมีเดีย , การช้อปปิ้ง , แพลตฟอร์มดนตรีและวิดีโอเข้าด้วยกัน อ้างอิงจากรายงาน
อุตสหกรรมค้าปลีกอย่างชานมจีนและเชนร้านกาแฟก็มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของการใช้งานอินเทอร์เน็ตเช่นกัน โดย LuckinCoffee , Heytea และ Starbucks ที่ให้ผู้ใช้งานสั่งออร์เดอร์ผ่านมินิโปรแกรมบน WeChat ได้ หนุนให้จำนวนผู้ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือเติบโตขึ้นอย่างน้อย 200% ต่อปีในปี 2562 จากรายงานของ Questmobile
อีกปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนเติบโตคือการสตรีมมิ่ง โดยจีนมีผู้ใช้ไลฟ์สตรีมมิ่งมากถึง 433 ล้าน จากข้อมูลของ CNNIC
ปัจจุบัน ไลฟ์สตรีมมิ่งบูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มจำนวนมาก ตั้งแต่เว็บไซต์ช้อปออนไลน์เถาเปาของอาลีบาบา ไปจนถึงแอปดนตรีและสตรีมมิ่งอย่าง Tik Tok และ Bilibili
ทั้งนี้ ผู้บริโภคทั่วโลกก็ใช้จ่ายเงินมากขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์แอป Sensor Tower พบว่า การใช้จ่ายทั่วโลกกับแอปผ่านแอปสโตร์ และ กูเกิลเพลย์ สูงถึง 277 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 8,384 ล้านบาท ) ในวันคริสต์มาสเมื่อปีที่ผ่านมา สูงกว่าปี 2561 ถึง 11.3%
โดยสัดส่วนการใช้จ่ายมากที่สุดคือ 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 6,356 ล้านบาท ) หรือ 76% ของรายได้จากทั้งแอปสโตร์และกูเกิลเพลย์คือเกมส์ โดย PUBG Mobile ที่สร้างสรรค์โดยสตูดิโอ TiMi ของบริษัทยักษ์ใหญ่ Tencent มีรายได้มากที่สุดคือ 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 257 ล้านบาท ) ในวันคริสต์มาสของปี 2562 เพิ่มถึง 431% จากเดิม 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 48.4 ล้านบาท ) ที่ผู้เล่นใช้จ่ายกับเกมในวันคริสต์มาสของปี 2561.