จีนตั้งเป้าศก.โต 6% ปีหน้า
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – จีนตั้งเป้าตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณ 6% ในปี 2563 จากเดิม 6 – 6.5% ในปีนี้ และจะมีการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้นด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อชดเชยการชะลอตัว จากแหล่งข่าวด้านนโยบาย
ผู้นำจีนพยายามจะสนับสนุนการเติบโตเพื่อจำกัดไม่ให้งานหดหายที่อาจกระทบกับเสถียรภาพทางสังคม แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันในการควบคุมความเสี่ยงหนี้ที่เกิดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในการประชุมสภาประจำปีของจีนช่วงต้นเดือนมี.ค.2563 ได้รับการอนุมัติโดยบรรดาผู้นำในการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนกลางในเดือนนี้ จากแหล่งข่าวที่รับทราบผลการประชุม
“เราตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 6% ” แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามระบุ
บรรดาผู้นำให้คำมั่นที่จะคงเสถียรภาพนโยบายเศรษฐกิจเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการบรรลุเป้าการเติบโตในปี 2563 สื่อภาครัฐรายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ปีหน้าจะเป็นปีสำคัญสำหรับรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะเติมเต็มเป้าหมายเพิ่มตัวเลข GDP และรายได้ในทศวรรษ
แหล่งข่าววงในด้านนโยบายระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจเกือบ 6% ในปีหน้าเพียงพอที่จะบรรลุเป้าจากแรงส่งของปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตประมาณ 6.2%
ทางคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ และกระทรวงการคลังยังไม่ได้ให้ความเห็นในทันทีเมื่อทางสื่อติดต่อขอสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.
รัฐบาลตั้งเป้าที่จะหนุนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยอนุมัติให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรพิเศษในปีหน้า แต่มีโอกาสน้อยที่จะลดภาษีลงอีก แหล่งข่าวระบุ
โดยการขาดดุลงบประมาณรายปีอาจเพิ่มจาก 2.8% ต่อ GDP ของปีนี้ แต่มีแนวโน้มที่จะอยู่ใน กรอบ 3%
รัฐบาลท้องถิ่นได้รับอนุมัติให้ออกพันธบัตรพิเศษมูลค่า 3 ล้านล้านหยวน (13.11 ล้านล้านบาท )
ในปี 2563 เพื่อเป็นการระดมทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
บรรดาผู้นำระดับสูงในการประชุมได้ระบุว่าการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินเป็นความสำคัญลำดับต้นๆสำหรับปี 2563 และเรียกร้องให้มีการคงระดับหนี้ต่อ GDP ให้มีเสถียรภาพ
โดยยังได้ให้คำมั่นที่จะเตรียมแผนสำรองทางธุรกิจเพื่อรับมือกับความผันผวนและความเสี่ยงที่ขยายตัวขึ้นทั่วโลก แต่การชะลอตัวอาจกดดันบริษัทเล็กๆมากขึ้น
“บริษัทเล็กๆจะต้องเจอกับแรงกดดันใหญ่ๆปีหน้า และอาจกระทบกับภาคการเงิน” แหล่งข่าววงในระบุ.